ตั้งแต่ปี 1903 ที่ Harley-Davidson เริ่มดำเนินกิจการผลิตรถมอเตอร์ไซค์อันเป็นเอกลักษณ์ของความเสรีออกมา ก็ได้รับความนิยมจากสิงห์นักบิดผู้รักมอเตอร์ไซค์ไซส์ใหญ่อย่างล้นหลาม ซึ่งในเวลาต่อมา ฮาร์เล่ย์ฯ ก็เริ่มผลิตมอเตอร์ไซค์ตามสั่งตามความต้องการของลูกค้า จนทำให้เกิดรถดีไซน์แปลก ๆ ออกมามากมาย ทั้งการสั่งดัดแปลงตัวถัง ติดอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือกระทั่งงานสีสุดเฟี้ยว โดยในวันนี้ HDP จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 6 สุดยอดมอเตอร์ไซค์ฉบับโมดิฟายน์ที่นำข้อมูลจากเว็บไซต์ www.mensfitness.com มาแนะนำให้ได้รู้จักกันครับ

1912- HD 499

     คันนี้อาจไม่ใช่มอเตอร์ไซค์สุดซ่าในปัจจุบัน แต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการแต่งมอเตอร์ไซค์ที่ยอดเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งลูกค้าได้นำรถรุ่น HD 499 มาให้โรงงานติดไฟหน้า เปลี่ยนโช้คอัพหน้า ปรับองศาเบาะนั่ง และที่น่าทึ่งที่สุดคือ ติดตั้งแผ่นบังโคลนเป็นคันแรกอีกด้วย

1941 - FL 74 “King Kong”

     เดิมทีแล้วเจ้า FL 74 นั้น เป็นมอเตอร์ไซค์ที่วางเครื่องยนต์หัวสูบเดียว ซึ่งกลายเป็นว่ามันไม่สะใจอย่างแรง ดังนั้น Felix Predko ดีลเลอร์รายหนึ่งจึงนำเครื่องยนต์ V-Twin สองหัวฉีดซึ่งใหญ่กว่าเดิม ยกเครื่องระบบเกียร์ใหม่ ต่อที่นั่งออกไปด้านหลังอีกที่หนึ่งพร้อมติดคันบังคับ ใส่ท่อไอเสียให้เป็น 4 ท่อ จนไป ๆ มา ๆ เจ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้กลับมีความยาวมากถึงเกือบ 4 เมตร มันจึงได้รับฉายาว่า คิงคอง เพราะความใหญ่อลังการของมัน ปัจจุบันเจ้าคิงคองได้รับการรักษาเป็นอย่างดีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Harley-Davidson

1947 - FL 74 OHV Twin

     ในปี 1947 ฮาร์เล่ย์ฯ ได้ออกแบบ ผลิตชิ้นส่วน และชุดแต่งของมอเตอร์ไซค์รุ่น FL 74 ออกมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า ขาตั้ง เบาะ แฮนด์ และที่เด็ดที่สุดก็คือเครื่องยนต์สูบคู่กว่า 1,200 ซีซี โดยเจ้าของผู้ไม่ประสงค์ออกนามรายนี้ได้ใส่ชุดแต่งเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งรูปลักษณ์อาจจะดูไม่หวือหวาเท่าไร แต่ก็บอกเล่าเรื่องราวของยุคนั้นได้พอสมควร ซึ่งปัจจุบัน FL 74 OHV Twin ได้รับการเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Harley-Davidson เช่นกัน

1957 - FLH "Billy Bike"

     เจ้าฮาร์เล่ย์ฯ คันนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในฉากภาพยนต์เรื่อง Easy Rider ซึ่งขี่โดย Dennis Hopper หนุ่มมาดเข้มที่ดูเข้ากับรถคันนี้อย่างเหมาะเจาะ โดยการดัดแปลงเริ่มตั้งแต่ใส่โช้คอัพสูง ปรับแฮนด์ให้สั้น เบาะนั่งสั่งตัดตามรูปทรง รวมทั้งบังโคลนและหลอดไฟสีเงิน ท่อไอเสียคู่ ถังน้ำมันขนาดเล็ก ฝาครอบโซ่ และลวดลายไฟที่ยังฮิตอยู่จนปัจจุบัน ฮาร์เล่ย์ได้สร้างรถรุ่นนี้ออกมาสองคัน ซึ่งพังไปหนึ่งคันและหายไปอีกหนึ่ง จนในที่สุดทางฮาร์เล่ย์ได้ตัดสินใจสร้างรถรุ่นนี้ขึ้นมาอีกคันหนึ่งเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Harley-Davidson โดยเฉพาะ

1960 - FLH "Captain America"

     มอเตอร์ไซค์คันนี้ถูกสร้างเพื่อใช้ในฉากภาพยนตร์เรื่อง Easy Rider ด้วยเช่นกัน ขี่โดย Peter Fonda ที่เป็นทั้งนักแสดงและโปรดิวเซอร์ของหนัง โดยรถรุ่นดังกล่าวใช้เครื่องยนต์แบบเดิม ส่วนที่ปรับแต่งนั้นมีเพิ่มความยาวเบาะ ลวดลายธงชาติสหรัฐฯ ทั้งบนตัวถังและหมวกกันน็อก ซึ่งคันนี้เป็นคันที่ถูกนำไปเข้าฉากโดนระเบิดในตอนท้ายเรื่อง จึงต้องสร้างใหม่เพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

1973 - FLH Electra "Rhinestone" Glide

     ฮาร์เล่ย์ฯ เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่น Electra-Glide ในปี 1965 แต่ด้วยความที่ไม่อาจสาแก่ใจสามีภรรยาคู่หนึ่ง พวกเขาจึงนำมันมาให้โรงงานแต่งมันเสียใหม่ ด้วยมูลค่าที่คาดว่าน่าจะเป็นงานตกแต่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮาร์เล่ย์ กับมูลค่าเกือบ 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 90,000 กว่าบาท ซึ่งงานตกแต่งนี้ประกอบด้วยหลอดไฟกว่า 200 หลอด โดยจากเดิมนั้น Electra-Glide มีน้ำหนักกว่า 327 กิโลกรัม และคาดว่าหลังจากตกแต่งแล้วปรับชื่อใหม่เป็น Rhinestone-Glide แล้วมันจะมีน้ำหนักมากกว่า 360 กิโลกรัมเลยทีเดียว

     เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับมอเตอร์ไซค์แต่งสุดซ่าจากฮาร์เล่ย์-เดวิดสันที่มีประวัติอันน่าทึ่งเหล่านี้ ซึ่งแต่ละคันนอกจากมีเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจที่ดีของสิงห์นักบิดทุกเพศทุกวัยและเป็นต้นแบบของมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่เห็นกันในปัจจุบันอีกด้วย

ที่มา   กระปุกดอทคอม