Cyclone Motor-Sled เป็นเลื่อนหิมะติดเครื่องยนต์ใบพัดที่จำหน่ายโดย บริษัท Mead Ice Yacht แห่งชิคาโก้ ในช่วงปี 1930 ฟังแล้วเหมือนจะพาหนะหน้าหนาวที่ไฮเทคมากๆ ในยุคนั้น แต่ว่าก่อนที่มันจะแล่นฉิวได้คุณเจ้าของทั้งหลายจะต้องหาเครื่องยนต์มาใส่ (เอาเอง) เสียก่อน ซึ่งเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในยุคนั้นก็หาได้ไม่ยาก เพียงแค่เดินไปที่ฮาร์เล่ย์ฯ คันโปรดแล้วรื้อเอาเครื่องยนต์ออกมาใช้กับเจ้าเลื่อนที่ว่านี้ชั่วคราว อย่างน้อยก็เฉพาะช่วงหน้าหน้าหนาวที่เอาสองล้อออกไปซิ่งไม่ได้ ไว้ถึงฤดูกาลแห่งการขับขี่เวียนมาบรรจบอีกเมื่อไหร่ ก็ค่อยรื้อเครื่องยนต์กลับไปใส่ในมอเตอร์ไซค์เหมือนเดิม
สำหรับคันนี้มาแปลกหน่อยตรงที่ใช้เครื่องยนต์ไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะมันมาพร้อมกับเครื่อง (เลื่อย) ยนต์ 24 ตัว ที่ถูกติดตั้งเข้ากับระบบส่งกำลัง 5 สปีดของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สตาร์ทยากที่สุดคันหนึ่งของโลก ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรให้มากแค่หาวิธีทำให้เครื่อง (เลื่อย) ยนต์ทุกตัวติดพร้อมกันก็ยากแล้ว
เจ้าสองล้อที่เหมือนเอาฮาร์เล่ย์ 2 คันมาต่อเข้าด้วยกันนี้มีชื่อว่า “King Kong” เป็นคัสตอมไบค์ (มั้ง) ที่เกิดจากการพยายามดัดแปลงเอาเฟรมของฮาร์เล่ย์ฯ 2 เฟรม และเครื่องยนต์ Knucklehead2 ตัว มารวมเข้าด้วยกันของคนช่างคิดในช่วงปี 1950 เห็นอย่างนี้แต่คุณสมบัติที่สุดยอดจริงๆ ของมันกลับอยู่ที่การเอาถังสำหรับการดำน้ำลึกมาเป็นแหล่งพลังงานสำหรับแตรลม (air horn) ของรถต่างหาก
Harley-Davidson Servi-Car เสริมที่นั่งพิเศษ “ม้าเด็กเล่น” ไว้ด้านหลัง สำหรับร่วมในขบวนพาเหรด American Legionช่วงปี 1950 โดยเฉพาะ งานนี้กว่าจะตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นทหารม้าเหล็กหรือใครจะทหารม้าเด็ก (เล่น) สงสัยต้องเคลียร์กันยาว ถึงอย่างนั้นก็คงไม่มีใครค้านว่า เจ้าสามล้อคันนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อผู้หลงใหลในฮาร์เล่ย์ฯ ที่มีลูกหลานเล็กๆ และอยากพาไปขับรถเล่นกินลมชมวิวด้วยกัน
หากจะว่าไปแล้ว มอเตอร์ไซค์ก็เป็นแค่สิ่งของอย่างหนึ่งที่ต่อให้มีคุณสมบัติดีเลิศยังไงแต่ถ้าคนที่ขี่มันเป็นแค่นักบิดไก่กา ต่อให้เจ้ารถที่ว่าเป็นถึงซุปเปอร์ไบค์ก็คงไม่ต่างอะไรกับมอเตอร์ไซค์ครอบครัวที่มีเห็นเห็นเกลื่อนถนน แต่นั่นต้องไม่ใช่ Eddie Krawiec ที่ถูกบันทึกลงใน NHRA Recordว่าเป็นผู้ที่คร่อมอยู่บนอาน Harley-Davidson V-Rod ที่ปรับแต่งโดย Vance & Hines ขณะที่มันแล่นด้วยความเร็ว 199.26 MPHในช่วง quarter mileระหว่างการแข่งขันศึกชิงจ้าวความเร็ว Drag Bike รายการหนึ่ง งานนี้ต้องบอกว่าแรงจริงทั้งรถทั้งคนขับ
มีคนไม่น้อยที่ชื่นชอบ Monster Trucks หรือรถยนต์สี่ล้อที่มีล้อใหญ่กว่ารถ แล้วสำหรับคนที่ชอบมอเตอร์ไซค์แต่ก็ชอบรถที่ล้อโคตรใหญ่เหมือนกันเล่าจะทำยังไง วันนี้ HDP จึงขอเสนอฮาร์เล่ย์-เดวิดสันรุ่นสุดยอดแห่งความพิเศษ สายพันธุ์ Monster Motorcycleคันเดียวในโลก ที่หนุ่มชาวมะกันเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น ภาพที่มอเตอร์ไซค์คันจ้อยบี้รถยนต์จนเละตุ้มเปะแบบนี้นับว่าหาดูได้ยากแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าข่าวสิงห์สองล้อตกมอเตอร์ไซค์คอหักคงหาได้ยากกว่า
สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่น่าทึ่งคันต่อไปนี้ เป็นฮาร์เล่ย์ฯ คัสตอมไบค์ ที่สร้างโดย Walt Siegl เห็นเล็กๆ บอบบางแบบนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันเคยถูกบันทึกสถิติไว้ว่าวิ่งได้ด้วยความเร็วถึง 180 mphบน Bonneville Salt Flats มาแล้ว
ส่วนฮาร์เล่ย์ฯ คันงามนี้เป็นผลงานการรังสรรค์ของสาวกฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ที่ต้องนอนซมอยู่กับที่เนื่องจากอุบัติเหตุ ผู้ต้องการคืนชีพให้กับ 1973 FLH สุดรักของเขา ด้วยการลุกขึ้นมามาตกแต่งมันเสียใหม่ด้วยไรน์สโตนนับพันชิ้นจนได้มอเตอร์ไซค์ที่อลังการงานสร้างคันนี้
ฮาร์เล่ย์ฯ “Hamburger”ของ Harry Sperlคันนี้ HDP เคยนำเสนอเรื่องราวไปแล้วว่ามันถูกดัดแปลงมาจากฮาร์เล่ย์ฯ 3 ล้อ โดยขณะที่มันกำลังโลดแล่นไปบนท้องถนน ฝาเบอร์เกอร์ด้านบนจะปิดลงมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทริปเดินทางในท้องถิ่นที่บรรดานักบิดอาจต้องพึ่งบริการ drive-thru ที่ผู้ใช้บริการสามารถขับรถเข้าไปซื้ออาหารได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ว่าแต่ “ต้องการเฟรนช์ฟรายด์ด้วยมั้ยครับ?”
นี่คือฮาร์เล่ย์ฯ 2011 blockbuster ของกัปตันอเมริกา ที่ดูจากภายนอกแล้วเหมือนมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในปฏิบัติการทางการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีผิด ทั้งที่จริงๆ แล้วมันก็คือ Harley-Davidson Cross Bones ที่ถูกนำมาโมดิฟายด์ใหม่จนดูเหมือน 1942 WLA Armyของยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้นเอง
ตามมาด้วยมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ผสม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ลิมูซีน สุดหรูที่หยิบเอาความคลาสสิกของมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ฯ และความหรูหราของรถลิโม่ มาผสมผสานกันอย่างลงตัว จะเจรจาธุรกิจกันด้านหน้าแล้วไปปาร์ตี้ต่อกันด้านหลังก็ยังได้ หรือจะใช้เป็นพาหนะสำหรับคู่บ่าวสาวไบค์เกอร์ก็โรแมนติกไม่เลวเลยทีเดียว
สำหรับชาวไร่ชาวนา พวกเขาต้องทำงานแทบตลอดเวลา ต่อให้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์มากแค่ไหน แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้พวกเขามีเวลาน้อยมากสำหรับการเอาฮาร์เล่ย์ฯ ออกไปซิ่ง ดังนั้นเพื่อให้ได้อยู่กับฮาร์เล่ย์ฯ สุดรักตลอดเวลา พวกเขาจึงต้องเอามันไปทำงานด้วย จึงเป็นที่มาของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เวอร์ชั่นแทร็กเตอร์ 4 ล้อ สีแดงสดคันนี้นี่เอง...
มาต่อกันที่ สโนว์โมบิล หรือ รถสำหรับขับเคลื่อนบนหิมะที่ใช้เครื่องยนต์ของฮาร์เล่ย์ฯ รุ่นปี 1913 เป็นขุมพลังในการขับเคลื่อน ภาพนี้แสดงให้เป็นได้ชัดเจนเลยว่า มีผู้ให้ความสนใจและหยิบเอาฮาร์เล่ย์ฯ มาดัดแปลงและประยุกต์ใช้นานแล้ว หรือจะบอกว่านานตราบเท่าที่ฮาร์เล่ย์-เดวิดสันถือดำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้ก็ยังได้
ส่วนฮาร์เล่ย์ฯ คันนี้ถูกยกให้เป็นอนุสรณ์สงครามเวียดนามที่มาพร้อมกับอาวุธสงครามชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปืนไรเฟิล 3 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิด 2 กระบอก พร้อมอาวุธปืนอื่นๆ และเครื่องกระสุนอีกเพียบ มากพอจะใช้ถล่มศัตรูในการรบด้วยยุทธการปิดล้อมแบบสบายๆ
ต่อกันด้วยฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เวอร์ชั่นดัดแปลงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคู่หนึ่ง จะดูไม่ประหลาดหลาดเท่าคันอื่น ชื่อเสียงของคัสตอมไบค์ทั้ง 2 คนนี้มากจากฉากในตำนานหนังคลาสสิก Easy RiderEasy Rider (1969)ที่มี Peter Fonda และ Dennis Hopperเป็นผู้ขี่ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ฮารืเล่ย์ฯ ทั่วโลกได้ไม่ยาก สำหรับคันที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นรถใหม่ที่สร้างเลียนแบบขึ้นมา โดยจัดแสดงไว้ที่ H-D Museum ส่วนของจริงถูกมือดีฉกหายไปจากสถานที่เก็บรักษาตั้งแต่ก่อนที่หนังเรื่องดังกล่าวจะออกฉายด้วยซ้ำ หลายคนสันนิษฐานว่ามันอาจถูกจับแยกส่วนไปแล้วก็เป็นได้
มาถึงภาพสุดท้าย ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้แปลกอะไรเพียงแต่ HDP อยากแถมเท่านั้น ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ ขอแค่คำถามเดียว...
“รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับฮาร์เล่ย์ฯ คืออะไร?”
คำตอบง่ายๆ ก็ “Marissa Miller” ไง
ที่มา www.harley-davidsonblog.com
|