ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศข้างเคียงอย่างอินโดนีเซียหรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็ตามจนผู้คนอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆ กันว่าจะเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มตามมาหรือไม่ เหมือนเมื่อครั้งที่เหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 จนเกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 10 เมตร กวาดล้างทำลายเมืองต่างๆ ริมชายฝั่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นราบเป็นหน้ากลองมาแล้ว
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ข้าวของและเศษซากปริมาณมากมายมหาศาลถูกคลื่นซัดลงทะเลไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถูกซัดกลับเข้าหาชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกน้ำซัดไปไกลชนิด “ข้ามทวีป” เลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่เจ้ามอเตอร์ไซค์ชื่อดังก้องโลก ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน!
ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างที่ปีเตอร์ มาร์ค (Peter Mark) ซึ่งเป็นคนเก็บของตามชายหาด กำลังขับรถ ATV สำรวจชายหาดที่ค่อนข้างห่างออกมาจากตัวเมือง บนเกาะกราแฮม (Graham Island) ในหมู่เกาะไฮรา กไว (Haida Gwaii) บริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เขาได้พบกับวัตถุทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับห้องบรรทุกของรถบรรทุกเคลื่อนที่ (moving truck) โดยที่พื้นหาดด้านใต้ตู้มีร่องรอยของน้ำทะเลขณะกำลังขึ้นปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
สภาพคอนเทนเนอร์ที่พบ
สภาพภายในคอนเทนเนอร์
“ประตูถูกกระชากอย่างแรงจนหลุดออกไปทั้ง 2 บาน ทำให้ผมได้เห็นยางของรถมอเตอร์ไซค์โผล่ออกมาจากในนั้น และเมื่อผมเข้าไปดูใกล้ๆ ผมก็ได้เห็นมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์-เดวิดสันล้มตะแคงอยู่ภายในตู้ มันน่าเหลือเชื่อมาก” ปีเตอร์กล่าว เขาเลือกที่จะลงจากรถ ATV แล้วเดินเข้าไปดูข้างในตู้คอนเทนเนอร์ และได้พบกับมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ฯ สภาพยังสมบูรณ์ล้มตะแคงอยู่ที่พื้น ตัวรถมีสนิมจับโดยเฉพาะตรงล้อและแฮนด์รถ เพราะอยู่ในทะเลมานานข้ามปี แต่โลโก้ของฮาร์เล่ย์ฯ ที่ประทับอยู่ด้านข้างถังน้ำมันก็ยังติดแน่นทนทานและคงความโดดเด่นไม่เปลี่ยน
โลโก้ที่ด้านข้างถังน้ำมันซึ่งยังคงติดแน่นแสดงให้เห็นว่า
มอเตอร์ไซค์ที่ท้องทะเลส่งมาไกลถึงคนละทวีปนี้เป็นของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน
นอกจากนี้ ปีเตอร์ยังพบไม้กอล์ฟอีก 6 อัน ใต้ฮาร์เล่ย์ฯ รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ตั้งแคมป์อยู่ภายในคอนเทนเนอร์อีกด้วย และเห็นได้ชัดว่าอุปกรณ์ทุกอย่างถูกวางอย่างง่ายๆ สะดวกต่อการหยิบใช้อยู่ในช่องใส่ของด้านล่างชั้นเท่านั้น เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ได้ถูกรัดอย่างแน่นหนาแต่อย่างใด
ปีเตอร์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ผมเริ่มสำรวจมอเตอร์ไซค์คันนี้อย่างใกล้ชิดและละเอียดมากขึ้น และได้เห็นป้ายทะเบียนยังติดอยู่ที่ด้านท้ายของรถ มันเป็นภาษาญี่ปุ่น แถมที่ผนังของคอนเทนเนอร์ยังมีแผ่นป้ายภาษาญี่ปุ่นติดอยู่ด้วย สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในหัวผมตอนนั้นก็คือ มันต้องเป็นของเศษซากที่เกิดจากภัยสึนามิในญี่ปุ่นแน่ๆ”
ป้ายทะเบียนรถระบุว่ารถคันนี้จดทะเบียนที่จังหวัดมิยางิซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากคลื่นยักษ์ และแผ่นป้ายที่ติดอยู่บนผนังตู้คอนเทนเนอร์ก็ตรงกับภาพถ่ายที่เห็นได้ทั่วไปในรถบรรทุกเคลื่อนที่ของญี่ปุ่น นาทีนี้ไม่ว่าใครก็มั่นใจแล้วว่า ผู้ที่ส่งเจ้าฮาร์เล่ย์ฯ สนิมเขรอะคันนี้มาไกลถึงแคนาดาแน่นอนคือคลื่นยักษ์สึนามิแน่นอน
ที่สำคัญ! หมายเลขตัวถังของรถก็ยังปรากฏให้เห็นชัดมาก ถึงขนาดที่สถานกงสุลญี่ปุ่นในแคนาดากล่าวว่าหากมีหมายเลขตัวถัง พวกเขาก็พอจะสืบหาได้ว่าชาวแดนอาทิตย์อุทัยคนใดที่เป็นเจ้าของรถ และหากเป็นไปได้ก็อยากส่งฮาร์เล่ย์ฯ คันนี้กลับคืนเจ้าของด้วย
ดูจากสภาพแล้วต่อให้ซ่อมแค่ไหนก็ไม่น่าจะเอาไปขี่ต่อได้ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเจอตัวเจ้าของและทางแคนาดาส่งรถกลับมาให้จริง ถึงจะขี่ไม่ได้แต่ก็เก็บเอาไว้ดูเป็นที่ระลึกถึงความหลังก็ยังดี
ที่มา www.cbc.ca
|