เป็นที่รู้กันว่า การตลาดของ “ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน” นั้น ส่วนมากจะเน้นไปที่ลูกค้าคนขาวที่มีอายุหน่อย ๆ
และแผนนี้ก็ไปได้สวยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งถึงวันที่เศรษฐกิจโลกต้องชะลอตัวลง
“ลูกค้าของฮาร์เล่ย์ฯ ที่ยังไม่มีงานทำหรือไม่ได้ทำงานประจำหลายร้อยคน (จากหลายพันคน) ก็เป็นอันต้องชะลอตัวตามกระแส พากันขายมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตัวเองออกสู่ตลาดกลายเป็นของมือสองเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพเอาตัวรอด ไม่ก็ปล่อยให้สองล้อถูกยึดคืนไป” Wall Street Journal กล่าว
ปัจจุบัน ฮาร์เล่ย์ฯ ยังคงครอบครองตลาดบิ๊กไบค์ของอเมริกาไว้อย่างเหนียวแน่น แถมยอดขายของสินค้าก็เพิ่งจะเติบโตขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ถึงแม้ว่ามันจะโตช้าหน่อย ๆ ก็ตามที
สถานการณ์แบบนี้ทำให้ฮาร์เล่ย์ฯ ต้องมองหาลูกค้ากลุ่มอื่นที่อยู่นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายเดิม ๆ ออกไป เช่น ผู้หญิง คนหนุ่มสาว ลูกค้าที่อยู่ในทวีปอื่น ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ แม้กระทั่งการขายมอเตอร์ไซค์ให้กับคนบางกลุ่ม หรือใครก็ได้ที่อยากจะเป็นเจ้าของสองล้อระดับตำนานอย่างฮาร์เล่ย์ฯ ดูสักครั้งในชีวิต
การเข้าทำตลาดกับไบค์เกอร์สาวของฮาร์เล่ย์ฯ ผ่านการจัดตั้งแคมเปญ “Garage Party” กิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟสนุก ๆ สำหรับสาว ๆ และการโปรโมตสองล้อฮาร์เล่ย์ฯ แบบโหลดเตี้ย (เบาะต่ำ) ในครั้งนี้ ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอีก 10 เปอร์เซ็นต์
วีดิโอโปรโมต “ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยกฮาร์เล่ย์ฯ ที่หนักถึง 550 ปอนด์ได้สบาย ๆ (ตอนที่รถล้มไปนอนกองกับพื้นอยู่)” ก็ได้รับเชิญมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
“และดูเหมือนว่าแผนการตลาดแบบใหม่นี้จะไปได้ไกล เพราะหลังปล่อยแคมเปญการตลาดที่ว่าออกไปแค่ไม่กี่เดือน บริษัทก็ได้ลูกค้าคนแรกเป็นสาวอินเดีย และเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ลูกค้าคนที่สองเป็นคนที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันอีก” The Economics Times รายงาน
เรื่องโดย Aimee Groth
ที่มา www.businessrider.com
|