ดนตรีส่งเสียงดังกระหึ่มออกมาจากร้านเหล้าจนคนที่อยู่บนถนนได้ยิน ไบค์เกอร์กลุ่มหนึ่งที่ทำทรงผมหวีปัดไปข้างหลังพร้อมใจกันใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนัง ยืนล้อมรอบมอเตอร์ไซค์หลากหลายรูปแบบที่พร้อมสำหรับการ “ซิ่ง” ได้ทุกเวลา
รถที่เห็นอาจเป็นโมเดลเดียวกันทั้งหมดแต่กลับไม่มีคันไหนใช้รูปแบบเดียวกันเลยแม้แต่น้อย เพราะรถแต่ละคันล้วนผ่านการถอดชิ้นส่วนแล้วก็ใส่กลับไปใหม่เพื่ออัพความเร็วของรถและแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยฝีมือของไบค์เกอร์ผู้เป็นเจ้าของกันมาแล้วทั้งนั้น
บุคคลเหล่านี้ถูกเรียกว่า “ร็อคเกอร์” ผู้ซึ่งสร้างชิ้นงานสองล้อคาเฟ่ด้วยมือมาแล้วนับไม่ถ้วน ความคิดแปลกแยกที่ไม่เคยเหมือนใครราวกับจะเป็นกบฏของสังคมของพวกเขาเหล่านี้แพร่สะพัดไปทั่วจนกระทั่งผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ ๆ จับเอาไปทำเป็นของตัวเองและนำเสนอให้กับมวลชนกันเป็นการใหญ่ผ่านการจัดจำหน่ายเป็นวงกว้างไปทั่วโลก โดยที่หารู้ไม่ว่าสิ่งนั้น “จิตวิญญาณของร็อคเกอร์” ผู้สร้างสองล้อคาเฟ่แท้ ๆ กลับต้องมลายหายไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งไม่เหลือแม้แต่ “ลม” ที่จะให้หายใจ
เรื่องน่าเศร้าเพิ่งจะได้รับการกู้คืนมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เพราะคำกล่าวเดิม ๆ อย่าง “ถ้าคุณคิดจะตามรอยต้นกำเนิดของรถมอเตอร์ไซค์คาเฟ่ คุณอาจจะไปเจอคำตอบที่หน้าร้านเหล้าริมทางที่ไหนสักแห่งในอังกฤษก็เป็นได้...” กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็น “ถ้าคุณคิดจะตามรอยต้นกำเนิดของรถมอเตอร์ไซค์คาเฟ่ คุณอาจจะไปเจอคำตอบตรงที่หน้าช็อปแห่งหนึ่งในอนาไฮม์ แคลิฟอร์เนียก็เป็นได้” เพราะ Steve Carpenter (หรือที่รู้จักกันในนาม Carpy) ผู้สืบทอดตำนานสองล้อคาเฟ่ตัวจริงของ “Ton-Up-Boys” ได้ตั้งช็อปและพร้อมดำเนินงานอย่างจริงจังแล้ว
โอเค เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...
|