และเช่นเคย ด้วยความแปลกแหวกโลกด้วยล้อคู่โตๆ ของรถสองล้อคัสตอมคันนี้ ก็น่าจะถูกแล้วที่ทุกสายตาจะจับจ้องอย่างตั้งใจแบบช่วยไม่ได้ยามที่ Richard นำมันออกไปเทสไรด์รอบๆ เมือง แต่สิ่งหนึ่งที่นับว่า “พลิกล็อค” เกินคาดก็คือ ผู้คนที่หันหน้ามามองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามัน “WOW” เสียนี่กระไร
ใช่แล้ว ทุกๆ คนให้ความสนใจกับสองล้อคัสตอมคันนี้มาก แต่แล้วเรื่องมันก็มีอยู่ว่า มันมีคนๆ นึงกลับปิ๊งฮาร์เล่ย์ของ Richard ชนิดเก็บเอาไปนอนฝันถึงแทบทุกคืน และชื่อของคนๆ นั้น ก็คือ Jubie Nabong ชาวเมืองร่วมเกาะเดียวกันนั่นเอง
หลังจากที่เพ้อฝันถึงเจ้าฮาร์เล่ย์คัสตอมของ Richard คนนี้มานาน Jubie ก็ไม่รอช้าที่จะโทรหาพี่เขยผู้รู้วิธีขี่ฮาร์เล่ย์แล้วอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และเรื่องมันกลับบังเอิญตรงที่ว่าพี่เขยของเขาคนนี้เป็นเพื่อนกับ Richard อยู่แล้ว เพราะเหตุนี้เรื่องราวจึงจบลงโดย Jubie ของเราถูกนำพาให้รู้จักกับ Richard อย่างไม่ต้องสงสัย
ครั้นเจอกันครั้งแรก Jubie บอกกับ Richard ว่าเขาคลั่งไคล้และอยากซื้อต่อสองล้อคัสตอมคันนี้มากๆ ซึ่ง Richard เองก็อธิบายกลับไปว่ารถคันนี้เป็นของเพื่อนของเขา เขาขายให้ไม่ได้หรอก พร้อมกันนี้ Richard เองก็ยื่นข้อเสนอแฟร์ๆ ว่าจะทำแบบนี้ให้สักคันก็ได้ถ้าต้องการ
แต่กระนั้น Jubie ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เขากลับโทรไปบอกกับ Richard อีกครั้งว่า เขาอยากได้มันมาสนอง need มากๆ เขาอยากซื้อสองล้อคันนี้กับ Richard และนั่นเองก็เป็นผลให้ Richard ต้องแนะนำ Mike เพื่อนสนิทให้ Jubie รู้จักกันจนได้
ด้วยความตั้งใจและดันทุรัง (สูง) ของ Jubie สุดดื้อคนนี้ ทำให้ Mike เจ้าของรถตัวจริงต้องตัดสินใจขายเจ้าสปอร์ตสเตอร์คัสตอมคันนี้ให้กับเขาไปในเวลาต่อมา
เหตุการณ์จบลง Mike และ Richard ตัดสินใจสร้างรถมอเตอร์ไซค์แต่งจากสปอร์ตสเตอร์ขึ้นมาใหม่คนละคันด้วยลุคใหม่น่ามองกว่า ที่มาพร้อมกับล้อหน้า-หลังขนาด “26 นิ้ว” ทั้งนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องทำงานคัสตอม “ช๊อกโลก” ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผมก็ยังอดนึกถึงคำเก่าแก่โบราณอยู่หนึ่งคำที่ว่า “ยิ่งใหญ่-ยิ่งดี” ไม่ได้ ดังจะเห็นได้ชัดจากเรื่องราวที่ผมเอามาเล่าให้ฟังกันวันนี้ยังไงล่ะครับ
ทุกวันนี้ Richard ก็ยังคงมีความสุขกับการใช้ชีวิตกับ “ลูก-เมีย” ควบคู่ไปการเป็น “ช่างไม้-ผู้สร้างสองล้อคัสตอมมือทองพาร์ทไทม์” โดยเขาเล่าว่าเขาแฮปปี้ทุกครั้งที่มีผู้คนชื่นชม “สองล้อพิสดารเบอร์ 26” ของเขา และสุดท้ายนี้ เขาก็ไม่ได้คิดเลยว่าจากแค่คำท้าขำๆ ของเพื่อนคนนึงจะกลับกลายเป็นชิ้นงานงามๆ ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันไปทั่วเสียแล้ว
ทุกครั้งที่ผมเห็นสองล้อคัสตอมล้อขนาดมโหฬารคันนี้ของเขา ก็ทำให้ผมอด (อีกแล้ว) นึกถึงรถแข่งทำจากไม้สไตล์โบราณ “โย่งๆ” ไม่ได้ทุกที
|