A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
พี่ติ๊ด Immortals: ผู้ก่อตั้งตำนานแห่ง HD เมืองไทย
By HDP PR
DATE: 2011.02.26
VIEW: 2123
POST: 0


ในช่วงเย็นวันหนึ่งของเมื่อต้นปี 2009 ด้วยความอนุเคราะห์จากน้าตุ๋ย Immortals ทำให้ HDP ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ตำนานอีกบทหนึ่งของ HD เมืองไทย หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อตั้งชมรม HD ที่มีประวัติยาวนานที่สุด และถือว่าเป็นกลุ่ม HD กลุ่มแรกในเมืองไทยอย่าง Immortals โดยได้รับเกียรติจาก "พี่ติ๊ด" แวะมานั่งพูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ ยามเย็น ณ ร้านแจมเมอร์ ย่านโชคชัย 4 แต่ที่นำมาลงซะต้นปี 2010 ก็เพราะสาเหตุจากเว็บล่มครับ จึงต้องขออภัยพี่ติ๊ดและ พี่ๆ ชาว Immortals ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
 

 

พี่ติ๊ดเริ่มต้นขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นไหนครับ
เมื่อก่อนพี่ก็มี Triumph มีรถญี่ปุ่น ก็เคยใช้พวก Kawa จะออกเป็นรถลักษณะพวก Chopper เป็นลักษณะคล้ายๆ Harley จะมี Triumph ที่แตกต่างหน่อย แต่ไม่ค่อยชอบพวกรถเรซซิ่ง มันเร็ว มันเครียด

แล้วพี่ติ๊ดเริ่มรู้จัก HD มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
เออ สมัยเราเด็กๆ อย่าง Side Valve สมัยก่อนคันหนึ่งห้าพันบาท

 

 
 

นี่ประมาณซักกี่ปีครับพี่
ประมาณ 30 กว่าปี เพราะอย่างในกลุ่ม อย่างของพี่แดง ส่วนมากเป็นรถของพี่ชาย รถของญาติกัน แต่ถ้าเราได้มาเป็นเจ้าของเลย เป็นเรื่องเป็นราวเลยก็ยุคที่มาขี่ shovelhead แล้ว ให้พี่เอามาให้จากอเมริกา เพราะว่าตอนนั้นแค่ shovelhead ก็ดังแล้ว เพราะว่าพวก evolution ยังไม่ผลิต ตอนนั้นของบ้านเราก็มีอยู่ แต่เป็นของตำรวจสันติบาลที่เอามาขี่นำหน้า King ของเรา ในยุคนั้นส่วนมากไม่ค่อยมีคนขี่หรอก จะมีก็ลานพระรูป ก็จะเป็นพวกเป็น Side Valve ซะมากกว่า ซึ่งมีมานานแล้ว Side Valve มันโบราณแล้ว บ้านเราที่มันมีไซด์วาวล์ขี่กันเยอะ เพราะว่าเมื่อก่อนนี้ ทหารกรมขนส่งเขาเอาเข้ามา เอามาใช้ในราชการ พูดง่ายๆ สมัยสงคราม ไอ้กันมันให้มา ก็เอามาขี่กัน คือเป็นรถราชการ รถหลวงนั่นแหละ พอมันเก่าเขาก็ขายประมูลทอดตลาด ทหารที่เคยขี่เคยใช้ ก็ประมูลกันออกมาใช้ พวกคนทั่วไปก็เลยเอามาขี่กัน แต่โดยเจตนาที่จะไปซื้อเข้ามาไม่มีหรอก ยุคนั้นยังไม่มีคำว่า Import หรอก แต่นั่นเป็นรถหลวง เพราะว่ามันเป็นรถหายากมาก อย่าง Side Valve ตอนนี้อเมริกายังซื้อกลับไปเลย เขาเอามาใช้ในราชการทหาร พอรถมันเสื่อมสภาพ มันเก่า เขาก็ประมูลออกมา พวกเราก็ไปประมูลออกมา

 

 

พวกสมัยรุ่นพี่รุ่นเก่าๆ เขาก็ไปประมูลเอามาขี่ มาซ่อมกัน มารวมกันที่ลานพระรูป ทั้ง BMW, Norton, Triumph, BSA, AJ เยอะแยะไปหมด อย่างพวก Harley นี่ก็มีอาจารย์อวบ ซ่อม Side Valve นี่ก็มือหนึ่งแหละ พอหลังจากนั้น มันก็มายุคที่ว่า นครบาลเอา Shovelhead เข้ามา มานำหน้าพระเจ้าอยู่หัว เอามาฝูงหนึ่ง เอามาเยอะเลยแหละ หลังจากนั้น ก็เลยมีกลุ่มที่ขี่ Harley กันเป็นตัวเป็นตนขึ้น แต่ก็ยังประมูลออกมากันอยู่ เป็นรถหลวง ยังไม่มีใครอิมพอร์ต แต่พอระยะหลัง คนเริ่มมาฮิต สมัยรุ่นพี่นี่ Evolution ยังไม่มี ก็เอามาขี่ มาทำกันเองบ้าง แต่งกันเองบ้าง ก็ไปหาอาจารย์อวบบ้าง ก็ขี่กันมา อย่างพี่แดงเขาขี่มาโบราณมากกว่าพี่ ขี่มาตั้งแต่เรียนหนังสืออุเทนถวาย ในช่วงนี้เริ่มมาพบปะกันบ้างแล้ว ตอนนั้นส่วนมากฝรั่งจะเป็นคนเอาเข้ามา พอมาระยะหนึ่ง ฝรั่งพัทยา พวกรอน วูดดี้ ก็เอา Shovelhead เข้ามา ก็เริ่มมาขี่กัน ตอนนั้นของเราก็มีพี่กุน วรราช แกก็เป็นอาจารย์สอนตำรวจที่ขี่นำหน้า King
 

 

เป็นอาจารย์สอนในสมัยโน้นเหรอครับ
แกมีประสบการณ์ แกก็เลยเข้ามาเทรนให้ตำรวจ พี่กุนก็เลยมาขี่ มีฝรั่งบ้าง ก็ร่วมขี่ด้วยกันมา ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว เมื่อก่อนเราขี่ ไปไหนมาไหนคนเดียวใช่ไหม ออกจากบ้านเมื่อก่อนเราก็ขี่ Shovelhead ยุคที่เราใช้ก็เป็น Low Rider เป็น Custom ใส่หน้า Wide Glide แผงคอกว้างด้านหน้า ตอนนั้นมันก็ยุคจิ๊กโก๋หน่อย จากหนังเรื่อง Easy Rider มันมีอิทธิพล คนแต่งรถยุคนั้นก็แต่งรถออกไปทาง Chopper จิ๊กโก๋ๆ หน่อย บางวันก็ใส่เสื้อหนัง นุ่งกางเกงยีน ใส่บูธ ใส่แว่น สมัยนั้นกฎหมายใส่หมวกยังไม่มี ขับออกไป กูนี่บ้าหรือเปล่า อยู่คนเดียวขี่ฮาเล่ย์บ้าๆ อยู่คนเดียว ไม่มีพวก ตอนหลังก็เริ่มมีงานพวก 4th July เขาจัดงานวันชาติอเมริกา จัดที่โรงเรียนอินเตอร์ เราก็ไปขี่กับพี่กุน รู้จักฝรั่ง เริ่มรู้จักกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ตอนที่ไป 4th July ก็เริ่มก่อตัวแล้ว กลุ่มคนขี่ Harley แต่ยังไม่มีเพลท ไม่มีอะไรทั้งนั้น

 

 
 

ประมาณกี่ปีแล้วครับ
ตอนนี้ขึ้นมายุค 80 แล้ว เพราะว่า Evo มันสตาร์ทตอนปี 85 พอเสร็จ ในช่วงนี้ พวกเราก็ขี่กันมาเรื่อย ทำรถกันไปเรื่อยเปื่อยมา 5 ปี หาพวกขี่ พอตอนหลังก็เริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันขึ้นมา พอมาได้สักพักหนึ่ง ในปี 85 เราก็เริ่มตั้งกลุ่ม Immortals กันขึ้น ก็เลยคุยกันบอกว่า มีเพลทข้างหลังกันบ้าง ไหนๆ พวกเราก็เริ่มมีกันหลายคันแล้ว ตอนนั้นมีอยู่สิบกว่าคัน สิบสามคันได้มั้ง ครั้งแรกก็ไปตั้งชื่อมา ต่างคนต่างไปตั้งชื่อกัน บางคนก็ไปตั้ง Siam Rider, White Elephant, Weekend Rider แล้วก็อีกหลายชื่อ ทุกคนก็ตั้งกันมาแล้วก็ดีไซน์กันมา เขาเรียกว่ากลุ่มก่อตั้งเป็นพวก Founder พี่ก็ตั้งชื่อไป 2 อัน Immortals กับ Thunder อย่าง Immortals เราได้อิทธิพลมาจาก เราว่ามันเป็นเทพ มันไม่ตาย สมมติว่าเครื่อง Side Valve เขาประมูลมาจากขนส่ง บางทีใส่เข่งมาเลย เหมือนแดร็กคิวล่า เอาน้ำมันราด ประกอบ ขี่กันได้อีกแล้ว มันเข้าท่าดี ใช้ชื่อนี้มันเหมาะสมดี ก็โหวตกัน อันนี้ชื่อมันมีความหมายดี อะไรอย่างนี้ ก็เลย เอาเป็นชื่อนี้แล้วกัน ตอนนั้นรู้สึกว่ามีสิบกว่าคนเอง

 

 
 

แสดงว่า Immortals เริ่มประมาณปี 1985
นั่นแหละ ประมาณนั้น 85- 86 ก็เริ่มก่อตั้งขึ้นมา ตั้งแต่นั้นก็ขี่กันมา ก็มีฝรั่งเข้ามา ยุคนั้นก็ให้คุณวิมล ศรีวิกร เอ เขาเป็นประธาน เพราะว่าเขามีหน้ามีตา มีชื่อเสียงก็ว่ากันไป ตอนนี้สมาชิกก็เริ่มทยอยเข้ามา สมัยก่อนร้านค้าก็ยังไม่ค่อยเปิด ยังไม่มีร้าน ไม่มีดีลเลอร์ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ก็มีเรามาเปิดร้านแจมเมอร์ เพื่อรองรับพวกเราเท่านั้นเอง ไม่ได้หวังให้เป็นธุรกิจใหญ่โตอะไร คือมาซัพพอร์ตเพื่อนนั่นแหละ เหมือนขับอยู่แล้วใช่ไหม ก็จะได้เซอร์วิสพวกเรา

 

 

แจมเมอร์เริ่มตั้งแต่ปีไหนครับ
ก็นี่แหละ ไล่เลี่ยกันมา ก็หลายปีอยู่เหมือนกัน จำไม่ได้ Immortals เริ่มทยอยกันมา คนก็เยอะขึ้น มีสัก 100-200 แบ่งเป็น chapter เป็นอะไร ก็เลยมีโหวตประธาน มีผลัดกัน 2-3 ปี จนมาถึงรุ่นนี้ เราก็มาเป็นประธาน มีประธานมาแล้ว 5 คน เมื่อก่อนพี่ก็เป็น Ride Member ตอนหลัง น้อง ๆ เขาก็บอก พี่ติ๊ดกลับมาเป็นหน่อยเหอะ

อย่างสมัยก่อนมีทริปไกลๆ ไหมครับ
มี เริ่มแรกนี่ก็คือตอน ฮาร์ดร็อคเปิด เขาก็เชิญเรา เพราะว่าเจ้าของฮาร์ดร็อคก็พอรู้จักกัน เราก็มาแฮงค์ที่ฮาร์ดร็อค ตอนนั้นทริปไม่ค่อยมีไกลๆ มาทีไร คนมันก็ถาม ฝรั่งก็มาถาม you เคยขับไปไหนกันบ้าง เราก็มาคิด เราก็มัวแต่จุ๊ยอยู่ในกรุงเทพนี่แหละ จัดทริปใหญ่ๆ กันซะหน่อย ก็เลยจัดไปเชียงใหม่ ทริปแรกเลย ทริปแรกไปเชียงใหม่ รู้สึกว่า Harley ทั้งประเทศไทย มารวมกัน เราก็ส่งข่าวกัน ทุกคนมากันหมด ไปกันทั้งหมด จำได้ว่า 40 กว่าคัน หมดประเทศแล้ว ตอนนั้นน่ะ ก็เดินทางกันไป ตอนนั้นเรามีเบียร์ Harley เราไปเหมามา

 
 

เบียร์ Harley เหรอครับ
เออ กินตลอดทาง ถ้าคนไปขุดถนน ทำถนนเดี๋ยวนี้ อาจจะไปเจอกระป๋อง เบียร์ Harley ฝังอยู่ เราก็ไปเหมาจากบริษัทมา ทริปนั้นรู้สึกว่าเราเก็บค่าเดินทาง ค่ากินอาหาร คนละ 500 แต่ค่าโรงแรมนี่ต่างหาก ไปนอนที่กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ฮือฮากันใหญ่ คนเชียงใหม่มาดูกัน ก็เป็นทริปแรก จะว่าไปก็เหมือนเชียงใหม่ไบค์วีค เราเป็นรุ่นแรกที่ทำ ก็ร่วมๆ 13 ปีได้ ตอนนั้น Harley ยังไม่ค่อยบูม แต่ก็เริ่มเปิดร้าน เริ่มจะมีคนอิมพอร์ต ส่วนมากคนขี่ฮาเล่ย์สมัยก่อนก็พวกนักเรียนที่ไปเรียนที่โน่น แล้วเอาติดตัวกลับมา เราถือเป็นของเอกสิทธิ์ บางคนเขาก็ใช้อยู่ที่โน่น เขากลับมาเขาก็เอากลับมาด้วย อย่างพี่อ้วนเขาก็อยู่นิวยอร์ค เขากลับมาเขาก็ต้องเอามาด้วย

สมัยก่อนเวลาเซอร์วิสก็จะมาที่แจมเมอร์
ใช่ มาแจมเมอร์ มาแฮงค์กัน เมากัน คุยกัน มานั่งเถียงกัน สมัยก่อน บางทีเมา ก็เอาอะไหล่มาถาม บอกเฮ้ย ตัวนี้อยู่ที่ไหน ในรถ เมาก็ก้มดูรถกัน มุดท้ายดูกัน ทายกัน ถามไดสตาร์ทของอะไร เฮ้ยของญี่ปุ่น อะไหล่ Harley สมัย AMF มันเป็นเรื่องของกองทุน ยุคนั้นยุคที่เป็น Shovelhead ตอนหลังมันก็มีญี่ปุ่นเข้าไปร่วมด้วย ไดสตาร์ทนี่ยังฮิตาชิเลย โช้คนี่ก็เป็นโชว่า แต่มันซ่อนไว้ข้างใน พวกไอ้กันจริงๆ พวกที่มันบ้า มันไม่เอา มันเปลี่ยนเลย มันต้องเอาของ USA ในยุคนั้น มีญี่ปุ่นเข้ามาประกอบ กิจการมันเจ๊ง Harley มันเจ๊ง แต่เขาก็กลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ เมื่อก่อนมันเป็นเรื่องของ Easy Rider มันเป็นเรื่องของพวก Ride in the wind เดี๋ยวนี้กลายเป็นเรื่อง Yuppy ไปแล้ว ต้องพวกหมอ พวกทนาย อย่างไปแถว Beverly Hill ไม่มีหรอกพวกกะเหรี่ยงจะไปซื้อ คันหนึ่งแพงจะตาย เคยไปขี่ เคยไปงานที่โน่น ไปปาร์ตี้ ไปรัฟฟริน ไปหลายงาน ตอนอยู่ที่อเมริกาเคยขี่จาก LA ไป Arizona เหมือนในหนังนั่นแหละ ทางทะเลทราย

อารมณ์ขี่ในต่างประเทศต่างกับบ้านเราไหมครับ
อากาศมันดีกว่า ถนนดีกว่า อากาศไม่ร้อน เย็นสบาย แต่ถ้าไปขี่ในทะเลทราย ลมมันก็จะแรง ลมมันมาเป็นช่วงๆ เราว่าเราคิดไปเอง แต่คุยๆ กับฝรั่ง ฝรั่งมันก็บอก บางทีมันชอบมี Back pack มีเป้มัด เผื่อบางทีถ้าไม่มีคนซ้อน มันจะได้ทำให้รถมีน้ำหนักไม่เบาไป ลมมันแรง






 

 
 

ตอนที่พี่ติ๊ดขี่ที่อเมริกา เป็นรุ่นไหนครับ
พี่ไปเพราะพี่รู้จักกับร้านทางโน้น รู้จักทางฝรั่งที่โน่น เขาเป็นดีลเลอร์ Harley เวลาเขามาเราก็พาเขาเที่ยว เราไปโน่น เขาก็พาเราเที่ยว เอารถให้เรา แล้วก็มีโอ๊ะ ที่อยู่ Immortals ด้วยกัน สมัยโน้น เขายังอยู่ Texas ปีนึง เขาก็บินมาขี่ Harley อยู่กับเรา พอเราไปโน่น เขาก็เอารถลากจาก Texas มา ใส่เทเลอร์มาให้เราขี่ รถก็ส่วนมากก็ของพรรคพวก เพราะเช่าไม่ไหว แพง ต้องทำใบขับขี่สากลไป อะไรอย่างนี้ ก็เฮฮากัน โอ๊ะนี่ลากมาจากโน่นนะ เท่าไหร่ล่ะ นั่งเครื่องไป 14-15 ชั่วโมง โอ๊ะ ลากมา 2 วัน มันไกล แถมใส่เทเลอร์มาอีก รถมันก็วิ่งได้แค่สปีดลิมิต ก็ไปอาศัยพรรคพวกกัน ก็ขี่ผลัดกันไป ขับคันโน้นคันนี้ มีพวกเยอะไง แล้วเราไป มันเป็นงาน Harley ด้วย พวกฝรั่งพวกอะไรที่เราเคยเทคแคร์ ไปเจอกันที่โน่นหมด อย่างงานไบค์วีคที่รัฟฟลินนี่ บางทีเขาก็ปิดเมืองเลย เมืองริมแม่น้ำ บ่อนคาสิโน มีโรงแรม แต่ทุกโรงแรมจองกัน 6 เดือน จองกันเป็นปี เข้าไปพนักงานแต่งเป็นHarley หมด ทุกคนมาคือ Harley หมด เขาจะมีตารางให้เลย ว่าเมืองนี้วันนี้จะมีอะไร มีคอนเสิร์ตที่ไหน มีคอนเสริ์ตร็อคแอนด์โรว์ขนาดไหนบางทีเขาก็มี ของ Hell Angel มีประกวดรถ ตระเวนเที่ยวดูเอา เมื่อก่อนเราก็อย่างที่เขาพูด เราเป็นคนเอเชีย พอไปโน่นมันก็ดูถูกเรา พูดง่ายๆ มันก็บอก พวกเราจะมี Harley เหรอ แต่ลองไปดูสิเมืองไทย เดี๋ยวนี้รุ่น Limited นี่เต็มเลย สมัยก่อนมันมานี่ สมัยก่อนเพื่อนฝรั่งมา มาเห็น Nostalgia ตกใจ บอกใช้กันเยอะขนาดนี้เลย

เหรอ มันเองยังหาไม่ได้ ของอะไรหายากอยู่เมืองไทยเกลื่อน Harley มันเยอะ สมัยก่อนฝรั่งมันดูถูก จะมีเหรอเมืองไทย เฮ้ยมึงมีฮาเล่ย์ด้วยเหรอ เดี๋ยวนี้มึงมาสิ เห็นขี่กันเป็นฝูงเลย มีปาร์ตี้เหมือนฝรั่งเลย คนไทยพัฒนาเยอะ มีคลับโน้น มีกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ เต็มไปหมด อย่างกลุ่มบ้านเราก็ไม่เหมือนที่ทางอเมริกา ของเขามันจะเป็นออกไปทางพวกกลุ่มใหญ่ๆ อย่างงานเขาซัพพอร์ต เราเข้าไม่ได้นะ เคยไป Hoover Dam เราก็ขี่ Harley ไปเหมือนกัน พอไปเราก็แวะแฮงค์ แหมมันมาลีมูซีนเลย President ของกลุ่ม มันนั่งลีมูซีนยาวเลย มันลงมาบอก ให้พวกเราถ่ายรูปกับมัน กูจะไปถ่ายกับมึงทำไม กูก็มี Harley ของกู มันกลายเป็นคิดกับเราเหมือนรถมันเป็นพวกอะไร รถมันไม่ใช่วิเศษขนาดนั้นหรอก แต่อย่างคลับของ Immortals ส่วนมากจะไม่มีรถอื่น สมาชิกเราจะเป็น Harley อย่างเดียว นโยบาย Harley แต่งได้เยอะ รถมันสวย พูดง่ายๆ คือเป็นฝันของผู้ชายทุกๆ คนนั่นแหละ มันแต่งไปได้หลายทิศทาง มันไปได้หลายอย่าง คือมันไม่หยุด บางคนเขายังพูด เฮ่ย มันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ นี่มัน Harley-Davidson คือความแตกต่าง อย่าเรียกมอเตอร์ไซค์ 

แล้วพี่ติ๊ดชอบเครื่องตัวไหนมากที่สุด
พี่ชอบ Shovelhead แต่ว่า Panhead นี่ก็สวย แต่ชอบ Shovelhead มากกว่า แต่เดี๋ยวนี้มาขี่ไม่ไหว ร้อน เดี๋ยวนี้ ปัจจุบันนี้มันพัฒนากลายเป็นรถไฮเทคไปหมดแล้ว รถ Shovelhead มันร้อน อยู่บ้านเราไม่ไหว ต้องขี่รถติดในกรุงเทพฯ ก็น็อคตาย เพราะว่ามันร้อนจัด มันเป็นเสื้อเหล็ก ไม่ใช่เป็นอัลลอยด์ ไม่ใช่อะลูมิเนียม เมืองนอกของฝรั่งเขา ระยะทางมันไกล มันข้ามรัฐแล้วอากาศมันเย็น รถมันก็ไม่ค่อยมีปัญหา บ้านเรามาใช้นี่มีปัญหา ถ้าเข้ากรุงเทพฯ ไป เยาวราชรถติดๆ ตายอย่างเดียวเลย แล้วรถมันใหญ่ บางทีขี่ Electra Glide มีกล่อง จะไปแทรกก็ไม่ได้ บางทีต้องยืนคา รถมันต้องใช้ on the way ไปต่างจังหวัดจริงๆ ต้องใช้ไปทัวร์จริงๆ ได้ระบาย บางทีเขาก็มีพวก Oil Cooler แต่ใหม่ๆ นี่ มันดีหมดแหละ Shovelhead เมื่อก่อนเหนื่อย เกียร์มันแข็งกระด้าง คลัชนี่ก็บีบจนกล้ามโตหมดล่ะ มันทำมาให้ฝรั่งใช้จริงๆ พอเราบีบอย่างนี้ พอลงรถนี่มือยังง้างคาอยู่ มันแข็งจนออกชุดแต่งชุดอีซี่คลัชมา มือระเบิดหมดล่ะ เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว พอ Twin Cam ออกมา เกียร์นี่เข้าเป๊ะ 1 2 ปึ๊บ จอด เมื่อก่อนโอ้โห โยกกัน ซ้ายขวา กว่าจะหาเกียร์ว่างได้ รถเก่านี่มันก็เก่าจริงๆ มันอย่างว่า มนุษย์ก็ยังไม่พัฒนา เดี๋ยวนี้มันพัฒนากลายเป็น ABS ไปแล้ว เดี๋ยวนี้ไปใหญ่แล้วรถมอเตอร์ไซค์

 
 

สมัยก่อน เขาแต่งแนวไหนกันครับ
มันก็เป็นแฟชั่น เมื่อก่อนก็ พอยุคอะไรนะ ใส่อินทรีย์ มีพี่คนหนึ่ง เมื่อก่อนพี่โย่ง อินทรีย์บินรอบคันเลย ฝาครอบ Derby ตรงไฟ เมื่อก่อนมันเป็นชุดไฟ ฝาถังครอบอะไรก็ไม่รู้ ใส่อินทรีย์เต็ม พอเลิกอินทรีย์ ก็ถอดอินทรีย์เก็บไปอีก คือมันแต่งไปเรื่อยๆ สมัยโน้นก็ Arlen Ness หรือ Performance เดี๋ยวนี้กลายเป็น OCC พวกช็อปเปอร์มีหลายซุ้ม หลายๆ กลุ่ม สมัยก่อนยังไม่มีพวกรถชอปเปอร์ ก็เอารถ Shovelhead มาทำ

สมัยที่ชอบทำชอปเปอร์กันในบ้านเรา พี่ติ๊ดได้ขี่บ้างไหมครับ
ก็เคยขี่ เคยลองเอาของน้องๆ พรรคพวกกัน ของอ๊อตเค้า แต่ปัญหาคือ เมื่อก่อน คนยังไม่ค่อยเอา Harley มาวาง เพราะ Harley มันสั่นเยอะเหมือนกัน ถ้าเชื่อมอย่างสมัยก่อนเทคโนโลยีมันไม่มี เอาเครื่องโฟร์วางเมื่อก่อนยังขาดเลย ใส่ฮาเล่ย์ไปก็ไม่ต้องละ ขี่ไปคว่ำตาย ไม่คุ้ม คนเลยไม่ค่อยทำ เดี๋ยวนี้คนมันเริ่มทำ เพราะเรื่องระบบเชื่อมมันไฮเทคขึ้น มีโรงงาน บ้านเราทำได้แล้ว เดี๋ยวนี้ ค่ายของต้อ ค่ายของอะไร ดอกบัวคู่ นั่นเขาก็ทำ เขาก็ made in Thailand เขามีโรงงาน น้อยก็ทำ พี่น้อย เดี๋ยวนี้ก็พัฒนาขึ้น เมื่อก่อนมีอยู่ 2-3 เจ้า แต่ส่วนมากเขาก็จะเอาเครื่องญี่ปุ่นวาง เครื่องโฟร์ ต้องเซียนจริงๆ เมื่อก่อน พวกน้องเรา ไอ้เก๋ มันก็จะขี่พวกนี้ แต่เราไม่ได้ว่าไม่ได้อะไร Immortals คือความฝัน เขาก็มี ชอปเปอร์ ไปไหนเขาก็ขอเกาะไปกับเรา เขาก็มีกลุ่มของเขา เมื่อก่อนกลุ่มเขา แบล็คแองเจิล ก็บอกว่าพี่ไปไหนขอไปด้วยแล้วกัน แต่เราก็ไม่ใช่จะบอก เฮ้ย มึงไม่ใช่ Harley ไม่ให้ไป ไม่ใช่อย่างนั้น ก็ไปเที่ยวด้วยกันประจำก็สนิทกัน เป็นพวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าคนละเพลทกัน เพราะว่านโยบายเราไม่รับ ใครจะเป็น Immortals ต้อง Harley อย่างเดียว

 

 
 

เป็นนโยบายที่ตั้งมาเลยเหรอครับ
นโยบายตั้งแต่เริ่มสตาร์ทแล้ว ตั้งแต่ตั้งแล้ว เพราะว่าพวกนั้นก็มาอยู่กับพวกเรา ไปเที่ยว ไปแฮงค์ กินเหล้า ไปด้วยกัน ไปเที่ยว ไปต่างจังหวัด ไปด้วยกัน แต่ว่าไม่ได้เป็นเพลทเรา ก็สนิทกัน เราก็บอก เดี๋ยวซักวันมันก็ต้องมี เพราะส่วนมากมันยังเป็นเด็กๆ Harley มันจะออกเป็นผู้ใหญ่ซะเยอะ มีเงินเดือนแล้ว เพราะว่านักเรียน ต้องไปขอพ่อกับแม่ พอทุกคนถ้ารับผิดชอบเอง หลายคนที่เป็นเด็ก พ่อแม่ไม่ให้ ไม่ใช่หวง กลัวลูกจะตาย เห็นรถแล้วคันเบ้อเร่อ แล้วจะไปขี่ยังไง บางคนซื้อ ก็เอาเข้าบ้านไม่ได้ ต้องไปแอบไว้ก็มี เพราะว่าเดี๋ยวกลัวพ่อแม่รู้ ไปงานไม่ให้ถ่ายรูป สมัยก่อนซื้อ Harley คันนึง เขาให้ไปโชว์ ไปเปิด ไปนั่นไปนี่ วิทวัสก็รู้จักกับพี่ พอจะพังฉาก เอ้าติ๊ตช่วยไปพังฉากให้หน่อย เอา Harleyไปรื้อฉาก มีเรื่องกินเหล้าทุกวัน ผับโน้นเปิด ผับนี้เปิด เชิญไปละ ให้ไปจอด แล้วก็เฮฮา แต่พวก Harley มันจะออกไปในทางเฮฮา ไม่ได้ค่อยสร้างปัญหาให้ใคร ของเราไม่ใช่แก๊งสเตอร์ เราแค่คลับ แก๊งมันก็อีกแบบ แก๊ง Hells Angels ใครจะเข้า พวกมันนี่ ถ้าเข้าไปแล้ว ทรัพย์สมบัติ มันต้องเป็นของพรรค ของกลุ่ม พอออก มันก็ยึดรถไป อย่างเดินทางไปไนไอ้พวกที่ลงทางเหนือทางไต้ ต้องไฟเขียว ขอทางกัน พอมาขี่ทัวร์กันไป เจอกันมันก็ซัดกันแล้ว ของเรานี่ไปไหนได้หมดแหละ เป็นมิตรกันหมด พี่นี่ทำทริปมา ไปทั่วเมืองไทยหมดแล้ว

 

อย่างทริปที่พี่ติ๊ดชอบมากที่สุด
ภูเก็ต ไปกันเยอะไปกันเต็มที่ เมื่อก่อนเราก็รู้สึกว่าเราคึกคะนอง กินเบียร์ แล้วปั๊มมันก็ขายเบียร์ พวกเราเวลาไปเชียงใหม่นี่ ถึงก่อนพัทยา เพราะเชียงใหม่มันต้องวางโปรแกรม พอเช้าปึ๊บ มีรถตำรวจนำขบวน เพราะพวกเรามีทั้งตำรวจ ทหาร พอไปต่างจังหวัด ก็จะมีตำรวจ Police Escort เขาก็หามาให้ ก็ต้องรีบขับกันไป รีบไป รีบกิน รีบออก แต่พัทยานี่เอ้อระเหย แวะบางนาก็แล้วกินเบียร์คุยกันโน่น ถกเถียงกันเรื่องอะไร พอบางนาเสร็จไปแวะชลบุรีอีกละ กว่าจะถึงพัทยาก็โน่น ห้าโมงเย็น ออกกันเช้า แวะกินข้าวเที่ยง กินรากงอกละ คุยกันไปเรื่อย เพราะเห็นว่าใกล้ เมื่อไหร่ก็ถึง โน่น ถึงเย็นทุกที เพราะว่าเราเอามันส์ เพราะสมัยก่อนกินเบียร์ได้ กฎหมายมันยังไม่ออก ปั๊มน้ำมันก็มีเบียร์ขาย ยืนกินอยู่ริมถนน อเมริกาไปยืนกินได้ไง ใช่ไหม มันไม่มีหรอก ไปยืนถือริมถนนมันก็โดนจับแล้ว แต่ของเรานี่โอ้โห ขี่ Harley เพื่อนขับกระบะ ลูกน้องเอาเบียร์ใส่กระบะ ใส่ถังคูลเล่อร์ มาถึงไอ้นี่ขับปล่อยแฮนด์ โยนเบียร์ มันอะไรจะสุขขนาดนั้น อย่างไปภูเก็ต พี่นี่สุดสนุกกันล่ะ กินเบียร์ขับกันไป เข้าสวนยาง อย่างภูเก็ตนี่เมื่อก่อนเราก็เป็นทริปพวกเรานี่แหล่ะ จะมี 2 ทริป ไปภูเก็ต ไปเชียงใหม่ แล้วก็ในเมืองเป็นประจำทุกปี พอเราไปทางเชียงใหม่ เขาก็เลยจัดเป็นไบค์วีคขึ้นมา เขาก็เริ่ม North Comet เขาตั้งมา แต่เริ่มต้นเลย แต่ก่อนเป็นทริปของพวกเรา แถวนั้น เชียงใหม่ ภูเก็ต คนก็โอ้โห ฝรั่ง ก็มามุงดูกัน เพราะปีหนึ่งเราจะทำทริปทีหนึ่ง เราจะจองไว้เลย หน้าหนาวเราจะไปเชียงใหม่ สงกรานต์เราจะไปภูเก็ต ทีนี้เลยกลายเป็นภูเก็ตไบค์วีค จริงๆ แล้วมาจาก Immortals เราเป็นคนจัด มันเป็นทริปของเรา พวกเราไปทีเป็นร้อยคัน ก็ไปทำปาร์ตี้ไปนอนโรงแรม เราก็มีดนตรีเล่น อาหาร เก็บต่อค่าหัว ก็กลายเป็นเรื่องขยายความไปเรื่อยๆ เมื่อก่อน Immortals คนเยอะมาก หลายร้อย สองสามร้อยถือว่าเยอะมากแล้วสมัยนั้น แต่พอตอนหลังเริ่มเก็บค่าสมาชิกยากละ คนมันชักเริ่มสี่ร้อยคน ก็เลยแบ่งเป็น chapter ไอ้ chapter นี้ก็ให้หัวเรือเก็บมา ไปๆ มาๆ ก็เลยไปตั้งชื่อของตัวเอง พอยกเลิก chapter มันก็ไม่กลับมาแล้ว บางคน เขาก็ไป chapter ของเขาไป ก็แยกไปเลย แต่ก็ไม่เป็นไร ก็เหมือนกลุ่มของ Commander ก็มาจากเรานี่แหละ Immortals แตกกันออกไป

 

แล้วถ้ามองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วงการ Harley เป็นยังไงบ้างครับ
ปัจจุบันคนขี่เยอะมาก แต่หลายๆ คน บางคนก็จอดละ พวกเรานี่บางคนก็ยังไม่ได้ขาย เพียงแต่พัก ไม่ไหว อายุไขมันก็เปลี่ยนไป 5 ปี 10 ปี 20 ปี เมียไม่ให้ขี่ บางคนธุรกิจเริ่มรัดตัว ไม่ว่าง คือเราจะตำหนิไม่ได้ อย่างทริปนี้ใครว่างก็ไป ไม่ได้บอกจะต้องไปหรืออะไร เราไม่ได้เป็นขนาดนั้น ไม่ต้องมากในกฎระเบียบขนาดนั้น เมื่อก่อนนี้มากกฎระเบียบ เมื่อก่อนต้องมาพูดฝรั่งกับเรา อย่างพี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเราไปเขาก็ดูถูกเรา เราไม่ใช่ลัทธิเอาอย่าง อเมริกัน พูดง่ายๆ มันดีอยู่ 2 อย่างเอง กางเกง Levi’s กับรถ Harley รัฐบาลก็เที่ยวไปข่มเหงเขา วุ่นวายหมด มันดูถูกคนไทยว่าไม่มี Harley ขี่ พอมาบ้านเรา เวลาเราประชุมเราไม่พูดฝรั่ง อยากรู้อะไรก็ถามพวกเรา ให้อยู่ข้างหลัง เพราะไปโน่น มันก็ให้เราอยู่ข้างหลัง มานี่เราก็ให้มันอยู่ข้างหลัง ไม่ให้นำหน้า เราก็มีศักดิ์ศรีด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่เราใช้ของมึง ต้องเป็นทาสมึง คือเราฉลาด เราเลือกของดีมาใช้ อะไรดีเราก็เอามาใช้

 

อยากให้พี่ติ๊ด ฝากถึงนักขี่รุ่นใหม่ๆ
จริงๆ เรื่องรถ มันห้ามไม่ได้ บางทีกินเหล้าเข้าไป ความห้าวมันก็ทั้งนั้น เราก็ต้องระวัง เพราะมันเป็นวินาที บอกได้เลย รถมอเตอร์ไซค์ ถ้าใครไม่เจ็บไม่ตายไม่รู้หรอก มันห่วงอุบัติเหตุแค่นั้นแหละ มัน 2 ล้อ อันนี้เนื้อหุ้มเหล็ก ต้องระวัง ต้องคอยบอกพรรคพวกให้ระวัง ต้องคำนึงไว้เสมอเลย คือเป็นวินาทีมันก็ไปกันแล้ว พอมันตายกันบ่อย มีปัญหากันบ่อย คลับมันก็จะเศร้าโศกกันไป มันก็เลยจะหยุดขี่กันไป บางคนก็กลัวบางคนก็พาลไม่อยากขี่ ขอให้คำนึงเรื่องอุบัติเหตุเป็นหลัก สมาธินี่ต้องแน่นอนเลย เรื่องเหล้าเรื่องเบียร์นี่ต้องเพลาๆ พอกินไปแล้วมันหยุดไม่ได้ เดี๋ยวจะมีเกม ปลิดวิญญาณ เรานี่เคยผ่านตรงนี้มาแล้ว เรารอดตายมา ขี่มาทั่ว ขับๆ ไปบางที โค้งนี่เมื่อก่อนนี้ สมัย Electra Glide ที่พักเท้ามันยังไม่เป็นเหมือนสมัยก่อน ข้างล่างนี่คมหมดล่ะ เข้าโค้งนี่กดให้ไฟแลบ พอโตมาเดี๋ยวนี้บอก ตายแล้วกูทำไปได้ยังไง เมื่อก่อนเพื่อนซ้อน ร้องเลย แบบไฟแล่บ เพราะจานมันเป็นเหล็ก สีกับถนน พอมานึกย้อนกลับไปแล้ว โอ้โห ถ้ามันเดี้ยงมันพิการ มันไม่คุ้มกันเลย ต้องระวังให้มากที่สุด

 

 

หลังจากพูดคุยกันอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแวดวง HD ในอดีตจากตำนาน HD ตัวจริงอย่างพี่ติ๊ด ได้รับทราบจุดเริ่มต้นของตำนานกลุ่ม Immortals และมิตรภาพของพี่ๆ Immortals ได้นั่งฟังคำบอกเล่าจากพี่ติ๊ดพร้อมรำลึกถึงความหลังกันเป็นระยะๆ ปิดท้ายรายการด้วยอาหารอีสานสุดอร่อยจากร้านในละแวกโชคชัย 4 ที่พี่ติ๊ดสั่งมาเลี้ยง ระหว่างนั่งซดต้มแซ่บร้อนๆ รสชาติถึงใจ ก็ยังได้มีโอกาสพบเห็นความเป็น Seniority ในกลุ่มของพี่ๆ Immortals ที่มีความเหนียวแน่น ยึดถือความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ที่ทุกสังคมน่าจะเอาเป็นแบบอย่าง

ต้องขอขอบพระคุณพี่ติ๊ด, พี่โอ๊ะ, พี่อ้วน, น้าตุ๋ย และพี่ๆชาว Immortals ทุกท่านที่สละเวลามาให้ความรู้และบอกเล่าถึงประสบการณ์การเดินทางและการใช้รถ HD จากอดีตมายาวนานให้กับนักขี่รุ่นหลังได้เีรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่น้อยคนนักจะได้มีโอกาสสัมผัสเฉกเช่นพี่ๆกลุ่มนี้ พร้อมทั้งให้คำแนะนำอันทรงคุณค่าต่อการสร้างสรรค์เวป HD-Playground เพื่อให้เป็นเว็บไซต์สือกลางสำหรับสังคมชาวมอเตอร์ไซค์ต่อไป
 

Share   Like
Comments