การขี่มอเตอร์ไซค์ทั่ว America ด้วยระยะทาง 4,000 ไมล์นั้นนับว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคน ได้แบ่งบันประสบการณ์เรื่องราวต่างๆกับคนแปลกหน้าทุกๆครั้งที่หยุดพักแต่ไม่เคยอยู่ที่ไหนนานเกินอาหารหนึ่งมื้อหรือนอนค้างที่ใดที่นึ่งเกินหนึ่งคืน การตะเวนไปทั่วอเมริกานั้นนับเป้นเรื่องพิเศษสุดๆซึ่งเกิดเป็นคำถามมากมายเช่น ต้องเตรียมตัวอย่างไร ควรเลือกขี่ไปเส้นทางไหน หรือแม้แต่ควรจะเอาอะไรติดตัวไปบ้าง และนี่คือเคล็ดลับดีๆ 50 ข้อสำหรับคนที่ต้องการขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนทั่วอเมริกา 

 

 

 

1.       ตัดสินใจวางแผนออกเดินทางในปีนี้เลยอย่าขัดขวางความสุขของตัวเองด้วยการพลัดวันเดินทางออกไปอีกปี

2.       อเมริกานั้นกว้างใหญ่กว่าที่คุณคิด ฉะนั้นใช้เวลาดื่มด่ำกับการขับขี่อย่ารีบร้อน

3.       ใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ในการขี่

4.       เนื่องจากจำนวนประชากรท้องถิ่น สภาพจิตใจ ดังนั้นควรเริ่มขี่รถจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกจะทำให้รู้สึกดีกว่าเล็กน้อย

5.       การหาเส้นทางควรเริ่มจากการหาจุดหมายปลายทางก่อนแล้วค่อยโยงเส้นในแผนที่โดยเลือกจากเส้นทางที่ดีที่สุด

6.      เส้นทางแนะนำที่ 1 เริ่มต้นที่ New York City มุ่งหน้าสู่สนามรบใน Gettysburg จากนั้นมุ่งสู่ Cleveland และ Rock and Roll Hall Of Fame ต่อด้วย Chicago จากนั้น Black Hills ใน South Dakota ต่อด้วย Chief Joseph Scenic Byway และ Yellowstone ไปต่อที่ Salt Lake City กับ Lake Tahoe สุดทางที่ San Francisco

7.     เส้นทางแนะนำที่ 2 เริ่มต้นที่ Start in Washington D.C. มุ่งหน้าลงไปที่ Blue Ridge Parkway เข้าสู่ Smokey Mountainsต่อด้วย Nashville จากนั้นเข้าสู่ถนนสาย Route 66 ใน St Louis ขี่ไปเรื่อยๆจนถึง Los Angeles

 

 

 

 

 

8.       เส้นทางแนะนำที่ 3 เริ่มต้นที่Orlando ไปต่อที่ Floridaขี่เลาะอ่าว Gulf Coast ไปจนถึง New Orleans มุ่งหน้าสู่ Austin Texas แวะที่ Big Bend National Park ต่อด้วย Roswell ใน New Mexico ขี่ผ่าน Arizona ไปยัง Salton Sea ต่อด้วย Joshua Tree National Park และ Palm Springs และสุดทางที่ Los Angeles

9.       การใช้ทางหลวงเชื่อมรัฐ = หมดความสนุกในการขี่ น่าเบื่อ ซึ่งคุณคุณจะไม่ได้ใช้เวลาดื่มด่ำการขี่ ผู้คนและสถานที่ต่างๆเท่าที่ควร

10.       การขี่ลักษณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงเส้นทาง หรือสถานที่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับผู้คนด้วย พยามคุยกับผู้คนเพื่อการขี่ที่คุ้มค่าขึ้น

11.       เมื่อเลือกใช้รถที่มีขนาดใหญ่หรือแพงขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะขี่สนุกมากขึ้นเสมอไป ขี่ครุยเซอร์ขนาดเล็กก็สนุกได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือกด้วย

12.       พยายามอย่าพกอุปกรณ์เสริมจำพวก GPS วิทยุดาวเทียม เพราะจะทำให้ต้องใช้สมาธิมากขึ้น ความสนุกในการขี่จึงลดลง ควรพกแค่ แผนที่ สมาร์ทโฟน กระเป๋าสตางค์ น้ำดื่ม ชุดปฐมพยาบาล และเสื้อผ้าเท่านั้น

 

 

      

 

 

  

13.      ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางล้อของรถที่ใช้สามารถทนทานต่อการขี่เป็นระยะทาง 3500 – 4500 ไมล์ได้ซึ่งยางล้อของรถสปอร์ตไบค์นั้นไม่สามารถใช้งานในระยะทางขนาดนั้นได้

14.       ถ่ายน้ำมันเครื่องรถก่อนออกเดินทางอย่างน้อยหนึ่งวัน (ไม่ควรทำหนึ่งคืนก่อนออกเดินทาง)

15.       ใช้ GPS ในสมาร์ทโฟนในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น กางแผนที่ดูจะได้อรรถรสในการขับขี่มากกว่า  

 

 

 

 

 

16.       ถ้าขี่ในหน้าร้อนควรเตรียม Cooling Vest ไว้ด้วยเพื่อความสะดวกสบายขณะขี่รถใสสภาพอากาศที่ร้อนจัด

17.       นำที่อุดหู (earplug) ติดตัวไปด้วย และอย่าขี้เกียจที่จะสวมมันเพื่อป้องกันอาการหูอื้อหรือป้องกันการเสื่อมของหู

18.      ถ้าหากใช้เวลา 3 สัปดาห์หรือมากว่านั้นในการออกทริป จะทำให้เห็นข้อแตกต่างของค่าใช้จ่ายในการใช้รถเช่ากับการใช้รถของตัวเองได้อย่างชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่ผ่านการขี่รถเป็นระยะทางกว่า 4,000 ไมล์แล้วความตื่นเต้นในช่วงขากลับย่อมลดลง การใช้บริการขนส่งนั้นจะมีราคาแพง และอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้รับรถคืนมา

19.      ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการออกทริปคือช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม

20.       ควรเตรียมเสื้อกันฝัน และเสื้อกันหนาวไปด้วย

 

 

 

 

 

21.       ระหว่างทางผู้คนจะขอให้เล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับทริปนี้

22.       ควรเลือกสถานที่ที่น่าสนใจเป็นจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง

23.       ถ่ายรูปและวิดีโอสั้นๆให้มากที่สุด

24.       ใช้เวลาอยู่กับเอกสารที่เกี่ยวกับตัวคุณและทริปนี้ไปตลอดทาง ไม่แน่ว่าอีก 20 ปีข้างหน้ามันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าแน่นอน

25.       เขียนบล็อกเกี่ยวกับการเดินทางของคุณในขณะที่บนท้องถนนเพื่อให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ รู้สึกเหมือนได้ร่วมทางไปกับคุณด้วย

26.       หากต้องการออกทริปในเชิงการกุศลควรสอบถามข้อมูลจากองค์กรนั้นๆ

27.       วางแผนสำหรับจุดหยุดพักที่มีสัญญาณโทรศัพท์ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในบางส่วนในชนบทของประเทศ

28.       โพสสั้นๆเกี่ยวกับ “แผนการเดินทาง” ในแต่ละวันจนตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนถึงจุดหมายปลายทางเพื่อลดความกังวลของครอบครัว เพื่อนๆ เรื่องความปลอดภัยของตัวคุณ

29.       ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นกับช่วงโพล้เพล้เป็นเวลาที่แสงจะสวยที่สุดเหมาะแก่การถ่ายรูปขณะออกทริป

30.   หลีกเลี้ยงการขี่รถในเวลากลางคืน เนื่องจากสัตว์ตัวเล็กๆจะออกมาบนถนน ถ้าหากยังขี่รถในเวลากลางคืนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

 

 

 

 

31.       วิทยุรายงานสภาพอากาศมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะช่วงที่มี Tornado ในเขต Midwest

32.       สำหรับการตั้งแคมป์:เนื่องจากผ่านการขี่รถมาอย่างยาวนาน จึงเกิดอาการเหนื่อยล้ามาทั้งวัน การตั้งแคมป์นั้นจึงเหมาะสำหรับพวกคนหนุ่ม หรือคนที่มีงบประมาณจำกัด และพวกที่รักการผจญภัยจริงๆ

33.       บริการของ Best Western, Motel 6, Super 8 นั้นเป็นตัวเลือกสำหรับนักเดินทาง สามารถใช้ app บนสมาร์ทโฟนสำรองที่พักที่อยู่ใกล้เคียงได้

34.       โทรไปสำรองที่พักล่วงหน้าเสมอสำหรับที่พักราคาสมเหตุสมผล และยิ่งถ้าเป็นสมาชิกระดับ AAA จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติม ให้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับความคุ้มค่าก่อนจะตัดสินใจสมัครสมาชิก

 

35.       บางครั้งอาจจะหลงไปเจอกับโรงแรมจิ้งหรีด ซึ่งในลักษณะนี้ควรตรวจสอบห้องพักให้ดีก่อนตัดสินใจเข้าพักไม่ควรเชื่อผู้คนท้องถิ่นมากเกินไป

 

 

 

36.       การทานบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่โรงแรมนั้นมักเป็นการเสียค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็น แนะนำให้ทานผลไม้ ขนมขบเคี้ยว และดื่มน้ำเพื่อรองท้องไปก่อน แล้วออกไปหามื้อเช้าตามร้านอาหารในท้องถิ่น ลองใช้เวลาวนหาสักนิดแล้วจะเจอร้านที่ถูกใจแน่นอน

37.       พยายามอย่าทานมื้อเช้าและมื้อเที่ยงจนมากเกินไป และควรเก็บน้ำดื่มไว้ที่กระเป๋าท้ายรถเพื่อป้องกันความร้อนจากดวงอาทิตย์

38.       เก็บมื้อหนักๆเอาไว้ทานเป็นมื้อเย็น เพราะถ้าหากขับขี่ขณะที่ร่างการกำลังย่อยอาหารมื้อหนักๆจะทำให้รู้สึกง่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง

39.       ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จนกว่าจะถึงที่พักค้างคืน

40.       เมื่อจอดรถค้างคือไม่ควรนำของมีค่าไว้ในกล่องสัมภาระ พยายามจอดรถไว้ในทู้คนพลุกพล่านเช่น จอดไว้ใกล้กับทางเข้าออกของโรงแรม ล็อกรถเข้ากับเสาหรืออะไรบางอย่างที่เป็นแข็งแรงและมั่นคงหรืออย่างน้อยก็ล็อกคอรถเพื่อป้องกันไม่ให้รถถูกขโมย

 

 

 

 

41.       เพลงที่เหมาะในการขี่รถท่องอเมริกาได้แก่ Robert Johnson, The Band, Dylan, Ryan Adams, Wilco, Willie Nelson, Daniel Lanois, Mark Knopfler, Freddie King, Jackson Browne, Emmylou Harris, Sheryl Crow, Lucinda Williams, Ry Cooder, The Grateful Dead without Mickey Hart and The Rolling Stones และ Mick Taylor.

42.       หนังสือที่เลือกนำติดตัวไปด้วยก็สำคัญเช่นกัน และดูเหมือนหนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะเป็นหนังสือที่อ่านสนุกสำหรับทริปที่ยาวนานนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทริปนี้คุณเดินทางคนเดียว

43.       หนังสือ “The Great Railway Bazaar” ของ Paul Theroux หรือ “Jupiter’s Travels” ของ Ted Simon และ  “One Man Caravan” ของ Robert Edison Fulton Junior นั้นคุ้มค่าที่จะจับมันยัดใส่ช่างว่าในกระเป่าสัมภาระ หนังสือของ Jack London และ  Raymond Chandler ก็เช่นกัน ซึ่งหนังสือบางเล่มจะมีประโยชน์มากเวลาเข้าห้องน้ำ

44.       เข้านอนเร็วหน่อย (ก่อน 4 ทุ่ม) และพยายามออกเดินทางขี่รถก่อน 7 โมงเช้า เพราะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่ได้เห็นสิ่งรอบตัวเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ บนรถมอเตอร์ไซค์

45.       มีสติตลอดการขับขี่ และพร้อมสำหรับสิ่งที่อยุ่เหนือการคาดหมายทุกครั้งที่อยุ่บนรถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะการขี่ทางไกลแบบนี้ สภาพอากาศ สภาพการจราจร เปลี่ยนแปลงตลอดทุกวัน ต้องมีสติครบถ้วนอย่าปล่อยตัวเองคิดฟุ้งซ่านเด็ดขาด

 

 

 

 

46.       มีนักบิดที่ได้ขี่รถทั่วอเมริกาบางคนที่ออกทริปคนเดียวแล้วเกิดภาพหลอนจากความโดดเดี่ยว ถ้าหากสภาพจิตใจย่ำแย่ให้พยายามนึกถึงครอบครัว ซึ่งคนส่วนใหญ่หรือแม้แต่พวก Hardcore ยังไม่ขี่ไปทั่วอเมริกาเลย ฉะนั้นประสบการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งที่ได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางในลักษณะนี้

47.       ควรเลือกเพื่อนร่วมทางอย่างรอบคอบในการเดินทางครั้งนี้ เนื่องจากต้องขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเวลานานหลายสัปดาห์มีผลต่อทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ และการจัดการต่อความเครียดของแต่ละคนก็ต่างกัน ซึ่งการร่วมทริปนี้อาจจะเป็นการสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืน หรืออาจเสียเพื่อนไปเลยก็ได้ ซึ่งพฤติกรรมต่างๆที่ต้องเจอ มีการแชร์ห้องในโรงแรมตลอดการเดินทาง ให้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ให้ดีเสียก่อนจะเริ่มออกเดินทาง

48.       หลีกเลี่ยงการเดินทางร่วมกับ เพื่อนจำพวกชอบขี่รถเร็ว ผลักดันเข้าสู่ความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เนื่องจากเป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความอดทนไม่ใช่การแข่งขันความเร็ว หรือ สตั๊นท์โชว์ หรือถ้าหากร่วมทางกับใครที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยให้เอ่ยปากเตือนทันที ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงอย่าร่วมทางด้วย แน่นอนว่าไม่มีเวลามาดูแลใครมากมายในเมื่อแต่ละคนต้องขี่รถกันวันละหลายร้อยไมล์  

49.       กำหนดวันพักผ่อนลงในแผนการเดินทางด้วย หาสถานที่พักผ่อนและผ่อนคลาย ระบายความเครียดสักสองวัน ซึ่งร่างกายคนเราต้องการมันทุกๆ 5 – 7 วัน แน่นอนว่าสามารถออกไปสังสรรค์ตอนกลางคืนได้ในเมื่อรุ่งเช้าคุณไม่ต้องขี่รถไปไหน

50.       จัดเตรียมข้าวของให้เรียบร้อยในคืนก่อนออกเดินทาง ซึ่งสิ่งที่เอาออกไปนั้น จะมีจำนวนถึง 25% เลยที่เดียว เตรียม ชุดชั้นในและถึงเท้าแห้งง่ายๆไป 2-3 คู่  เสื้อยืดเก่าๆที่จะทิ้งแล้ว สวมมันจนกว่าจะมีกลิ่นอับค่อยถอดทิ้งแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ ถ้าต้องการเสื้อผ้าเพิ่มเติมให้หาซื้อตามจุดแวะพัก หนังสือที่อ่านจบแล้วก็ไม่ต้องเก็บติดตัวมาด้วย ให้ไปถึงจุดหมายปลายทางโดยที่มีสัมภาระน้อยที่สุด แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความสุขที่เต็มล้นหัวใจ นี่อาจจะเป็นเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดของสิ่งที่ได้แนะนำไปทั้งหมด

 

 

  

 

 

หวังว่าเคล็ดลับต่างๆเหล่านี้จะมีประโยชน์กับเหล่าไบเกอร์ที่หลังที่จะนำไปใช้หรือประยุกต์ให้ใช้ได้กับการเดินทางไปยังที่อื่นๆได้

 

 

 

--------------------

เรียบเรียงโดย... HD-Playground

ที่มา... motorcycle.com