A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Modify & Custom]
 
|| Modify & Custom || How to build a Harley Cafe Racer
By HDP PR
DATE: 2014.07.24
VIEW: 2204
POST: 0

 

|| MODIFY & CUSTOM ||
HOW TO BUILD A HARLEY CAFE RACER
TEXT/PHOTO: BIKEEXIF.COM | TRANS: HD-PLAYGROUND

 


 

 


 

บทความเกี่ยวกับวิธีการสร้างรถฮาร์เล่ย์คัสตอมสุดเจ๋งในแนวคาเฟ่-เรเซอร์ ที่หลายท่านอาจจะสามารถใช้บทความดังกล่าวเป็นแนวทางในการพัฒนาสองล้อคันโปรดของตัวเอง ในบทความนี้ เรามีความตั้งใจที่จะนำเสนอแนวทางในภาคปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่ก่อนอื่นนั้นต้องเข้าใจว่ารถมอเตอร์ไซค์มีความแตกต่างกัน การเริ่มต้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นก่อนลงมือทำจริงเราจำเป็นต้องศึกษาจุดแข็ง-จุดอ่อน รายละเอียดอย่างลึกซึ้ง โดยบทความนี้จะเริ่มด้วยการปรับโฉมเจ้า “Harley-Davidson Sportster”

 

ถึงแม้ “Sportster” จะเรียกได้ว่าเป็นสองล้อสไตล์ “Bobber” สายพันธุ์อเมริกันแท้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความคิดนักออกแบบหัวหมอ ในการจับเอาเจ้า Sportster คันงามแปลงเป็นรถคาเฟ่-เรเซอร์สุดเก๋าได้ ถึงแม้ทาง ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เองจะเคยสร้าง “XLCR 1000” เมื่อปี 1977 ซึ่งกลายเป็นของสะสมแสนล่ำค่าของชาวสองล้อมาแล้วก็ตาม...

 

 

 

 

 

 


 

“Deus” (ภาพด้านบน) Sportster แนวคาเฟ่-เรเซอร์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสองสำนักแต่งรถคัสตอมสุดเทพ “Roland Sands” และ “DP Customs” อีกหนึ่งความสำเร็จจากการจับเจ้า Sportster มาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่โดยใช้เครื่อง Sportster รุ่นใหญ่ V-twin 1200 ออกแบบในสไตล์ “Hand-in-Hand” ด้วยท่วงท่าการขับขี่แบบ “Low-Slung” ซึ่งดูค่อนข้างจะแปลกและไม่ค่อยพบเห็นมากในทั้งตลาดยุโรปและญี่ปุ่น

 

 

 

 

 


 

 

โครงรถใต้เบาะและถังน้ำมันทำมุมองศาที่พอดิบพอดี ที่จะทำให้รถดูปราดเปรียวและลู่ลม ช่วยเสริมในเรื่องความเร็วของตัวรถ ด้วยความเป็น Bobber ในสไตล์ของฮาร์เล่ย์จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่ตัดเฟรมรถบางส่วนทิ้งไป เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่น อาทิ CX500s และ Royal Enfield Bullets ด้วยเช่นกัน

 

สำหรับถังน้ำมันของ Sportster มีขนาดเล็กไม่สมดุลกับน้ำหนักรถ และมีองศาระนาบเฉียงขึ้นด้านหน้า พร้อมทั้งรูปทรงเป็นแนวคลาสสิกเสียมากกว่า ซึ่งในความเป็นจริงถังน้ำมันในแบบของรถแนวคาเฟ่-เรเซอร์นั้น ฉีกกฎทุกตำราของการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ จึงไม่น่าแปลกใจว่า รถ V-twin แนวคัสตอม อย่างเช่น Yamaha Viragos และ Benelli Mojave ต้องดีไซน์ถังน้ำมันใหม่ในทรงที่แปลกตา

 

ล้อของ Sportster ที่มีล้อหน้าใหญ่กว่าล้อหลังนับได้ว่าเป็นดีเอ็นแอสายตรงจากรถแนว Bobber เลยก็ว่าได้ ทำให้การที่จะเปลี่ยนเป็นแนวคาเฟ่-เรเซอร์ ช่างฝีมือจำเป็นต้องปรับแก้ไขข้อผิดพลาดจุดนี้ให้ดีขึ้นในภายหลัง

 


 

 

 

 

 

จากภาพด้านบนเราจะเห็นว่า Sportster เดิม ๆ จากโรงงาน “Bone-Line” ของตัวรถแทบจะไม่มีความเป็นคาเฟ่-เรเซอร์อยู่ในตัวเองเลย พารามิเตอร์ถังน้ำมันทำให้เราทราบว่าน้ำหนักของตัวรถไม่มีความสมดุลกันอย่างแน่นอน


 

 

 

 

 

 

ด้านบนคือพารามิเตอร์แสดงตำแหน่งโครงรถที่ควรแก้ไข ถังน้ำมันควรอยู่ต่ำเท่า ๆ กับเครื่องยนต์ อาจเป็นไปได้ว่าตัดส่วนท้ายเพื่อยกเบาะให้สูงขึ้น เส้นแนวยาวจะแสดงมวลน้ำหนักและจุดสูงสุดของถังน้ำมัน ส่วนแนวระนาบเป็นส่วนของเบาะและฐานถังน้ำมัน

 

 

 

 


 


 

 

 

 

The Classic Approach ใช้แบบดั้งเดิมของรถแนวคาเฟ่-เรเซอร์ ถังน้ำมันและเบาะถูกออกแบบให้ยืดตรงไปด้านหน้า จุดศูนย์กลาง ความสูง เริ่มเข้ารูปกับความเป็นคาเฟ่มากขึ้น ส่วนโค้งของรถที่ดูเหมือนเป็นกระดูกสันหลังนั้นทำไว้ได้อย่างเฉียบคมในลักษณะลูกศรโค้งไปด้านหน้า ทำให้แบบโครงรถที่ออกมาดูเพรียวให้อารมณ์สไตล์คาเฟ่-เรเซอร์ และยังทำให้รถดูทรงพลังมากขึ้นด้วย

 

 

 

 


 

 

 

 

The ‘Muscle’ Approach การสร้างโมเดลนี้ค่อนข้างยาก เราจะออกแบบให้ตัวรถยังหลงเหลือความเป็น Bobber ในสไตล์อเมริกันอยู่บ้าง เก็บรายละเอียดปลีกย่อย เชื่อมถังน้ำมันและเบาะติดกัน รวมถึงถังน้ำมันที่จัดวางให้อยู่ตรงกลางขององศารถ เพิ่มคุณค่าทางจิตใจให้ดูเหมือนว่ารถได้ถูก “วางแผน” มาอย่างดีก่อนจะโลดแล่นจริง ๆ บนถนน

 

 

 

 


 


 

 

 

 

The Advanced Build ในส่วนนี้ไม่ได้กำหนดตายตัวว่ารูปทรงตัวรถหรือกรอบความคิดเป็นอย่างไร แบบของตัวรถอยากให้เจ้าของออกแบบมันขึ้นมาเองตามเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ส่วนบุคคล ซึ่งในโมเดลที่ออกแบบมาคร่าว ๆ นี้ได้จัดองศาเฟรมรถและเบาะให้สะท้อนเป็นเงาของตัวรถสร้างความเป็น “Premium” แต่ในส่วนอื่น ๆ ยังคงต้องรอดีไซน์เนอร์ออกแบบตัวรถให้สมบูรณ์แบบที่สุดต่อไป


 



 

 

---
ที่มา... bikeexif.com
แปลและเรียบเรียงโดย... HD-Playground


Share   Like
Comments