ช่วงนี้สถานการณ์การเมืองช่างรุนแรงเสียจริง ๆ น่าเป็นห่วงเหตุการณ์บ้านเมืองในอนาคตข้างหน้า แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การแตกแยก แตกความสามัคคีในหมู่คนไทยด้วยกันเอง

หันมามองรอบข้างของเราดูทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนังสือพิมพ์หรือข่าวสารในทีวี ที่เห็นได้ชัด ๆ คือ เฟสบุ๊ก เต็มไปด้วยข่าวการเมือง แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน เรื่องอื่นอาจไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่พอเป็นเรื่องการเมือง ณ ปัจจุบัน ยิ่งกลายเป็นเรื่องซีเรียสขึ้นมาทันที

อาจไม่ผิดหรอกที่เราจะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ว่าฝ่ายไหน ไม่ผิดหรอกที่เราจะแชร์ข้อมูลให้คนอื่นได้รับทราบ ถ้าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ
 

แต่ในปัจจุบัน เริ่มเห็นความรุนแรงของการเมือง รวมถึงการแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ หรือถ้อยคำที่รุนแรงที่ใครได้อ่าน ที่แม้ฝ่ายเดียวกันยังอึ้ง แล้วยิ่งหากเป็นคนละฝ่าย ก็ย่อมเกิดความไม่พอใจ จนบางครั้งเกิดการตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงกลับคืน

เชื่อหรือไม่ว่า จากคนที่เป็นเพื่อนกันมา ช่วยเหลือกันมา กินเที่ยวสนุกสนานด้วยกัน เพียงแค่มีความเห็นต่างทางการเมือง ก็มีผลให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจได้ แล้วถ้ายิ่งใส่อารมณ์หรือใช้ถ้อยคำรุนแรงแล้วละก็ยิ่งไปกันใหญ่ พาลไม่ชอบ หรือโกรธกันไปเลยก็มี

ในฐานะของชาวไบเกอร์ เรื่องมุมมองทางการเมืองของแต่ละคนอาจต่างกัน แต่มีมุมมองหนึ่งที่เราเหมือนกัน คือ “มุมมองของไบเกอร์” มุมมองของไบเกอร์ คือ มุมมองของผู้ที่รักในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ในการท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ เป็นมุมมองที่เฉพาะไบเกอร์เท่านั้นที่จะได้เห็น เป็นมุมมองที่ผู้เดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์อาจไม่ได้พบเจอ

มุมมองของไบเกอร์ซึ่งมองด้วยตาผ่านแฮนด์ โดยไม่มีเสาหน้าแบบรถยนต์บดบังทิวทัศน์ 180 องศา ข้างหน้า แต่อาจโดนแฮนด์บังนิดหน่อยถ้าท่านใส่แฮนด์โหน (555) ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

เป็นมุมมองที่สัมผัสได้ ทางผิวหนัง รับแสงแดดที่แผดร้อนหรือสายลมเย็นให้ชุ่มชื่น โดยไม่มีกระจกและฟิลม์กรองแสงมาช่วยกรอง

เป็นมุมมองที่สัมผัสได้ ทางหู รับเสียงท่อที่ออกจากเครื่องยนต์อันทรงพลัง โดยไม่มีห้องโดยสารมากรองเสียง

เป็นมุมมองที่สัมผัสได้ ทางจมูก ไม่ว่าจะกลิ่นของทะเลเมื่อยามที่เราขี่เลียบชายหาด กลิ่นต้นไม้ กลิ่นฝน กลิ่นดิน หรือแม้แต่กลิ่นของหมาเน่าตายข้างทางก็รับไปเต็ม ๆ (สดชื่น)

สิ่งสำคัญที่มุมมองของไบเกอร์ได้เห็น คือ มุมมองของมิตรภาพในหมู่เพื่อนฝูง ซึ่งจะได้พบกับน้ำใจของเพื่อนร่วมเดินทาง ไม่ว่าจะมาด้วยกันหรือคนละกลุ่ม

เคยเห็นมั้ย? เวลาที่เราไปเที่ยว มีรถในกลุ่มเสีย เพื่อน ๆ มาช่วยกัน ใครซ่อมเป็นก็มาช่วยกันซ่อม

เคยเห็นมั้ย? เวลาเราขี่รถสวนหรือแซงไบเกอร์กลุ่มอื่น ก็มีการโบกมือทักทาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่รถยนต์มักไม่ค่อยได้เห็น

เคยเห็นมั้ย? เวลาจอดปั๊ม มีการซื้อน้ำ ซื้อผ้าเย็นซื้อกาแฟ มาแจกจ่ายแบ่งปันกัน

นี่คือสิ่งที่ไบเกอร์จะได้เห็น โดยผ่าน “มุมมองของไบเกอร์”

แล้วทีนี้ หากคนที่มีความคิดทางการเมืองแตกต่างกับคุณ ไม่ว่าฝ่ายไหน

คือคนที่เคยซ่อมรถให้คุณหรือรถของเพื่อน ตอนรถมีปัญหา

คือคนที่เคยซื้อผ้าเย็นและน้ำเย็นมาแจกจ่ายเพื่อนฝูง

คือคนที่คอยดูแลสารทุกข์สุกดิบของเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเรื่องที่พักหรืออาหารการกิน

คุณจะทำอย่างไร? ฉันไม่แคร์? ฉันไม่สนอย่างนั้นหรือ?

มิตรภาพและการช่วยเหลือกันระหว่างทาง

มุมมองทางการเมืองเราต่างกันได้ แต่อย่าแตกแยก คำ ๆ นี้เป็นคำพูดที่ดูสวยหรู เหมือนจะทำได้ยาก ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ยากเลย เพียงแค่เราไม่ใช้ความรุนแรงในการโพสต์ข้อความ แสดงความเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ เข้าใจเขาเข้าใจเรา
 

อย่างที่กล่าวมา เรามีมุมมองต่างความคิด แต่เรามีมุมมองที่เหมือนกัน คือ “มุมมองของไบค์เกอร์” ร่วมทุกข์ร่วมสุข เก็บเกี่ยวความสุขและความทรงจำที่ดีไปด้วยกัน ยังมีสถานที่อีกมากมายที่เรายังไม่เคยไป ยังมีถนนอีกหลายสายที่เรายังไม่เคยผ่าน ก้าวผ่านความขัดแย้งทางความคิดที่มาบดบังสายตา เหมือนแมลงที่บินชนติดชิลด์กันลมหรือติดแว่นยามขี่รถท่องราตรี ปัดมันออกไป ทำความสะอาดกระจกแว่น แล้วมองผ่านมันไป ด้วย “มุมมองของไบเกอร์” คุณก็จะเห็นมิตรภาพ ความรัก และน้ำใจ ที่รออยู่

หมายเหตุ ภาพใช้ประกอบคำบรรยายเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาการเมือง ขอบคุณภาพของ พี่เดี่ยว อัศวิน มากครับ ชอบรูปพี่เขาทุกภาพ ได้อารมณ์จริง ๆ แอบขโมยมา