1910's

                                       ต้นกำเนิดเครื่องหมาย "Bar&Shield" ที่คุ้นตาจนถึงปัจจุบัน

การแข่งขันอย่างน้อย 7 รายการทั่วทั้งอเมริกา ในแบบแข่งขันความเร็ว, แข่งขันระยะทาง และแข่งขันขึ้นเขา ผู้ชนะทั้ง 7 เข้าเส้นชัยด้วย Harley-Davidson

1911

                                      F-Head Engine

เครื่องยนต์แบบ F-Head ได้เข้าสู่สายการผลิต และใช้เป็นเครื่องยนต์หลักสำหรับ Harley-Davidson ไปจนถึงปี 1929

1912

                                                         สำนักงานใหญ่และโรงงานอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

เริ่มการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ของ Harley-Davidson ขนาด 6 ชั้นที่เป็นทั้งโรงงานผลิตไปในตัว ที่ Juneau Ave. ใน Milwaukee เริ่มวางแผนให้แผนกอะหลั่ย-ของตกแต่งแยกตัวออกเป็นอิสระจากแผนกการผลิต

ดีลเลอร์ของ Harley ในช่วงทศวรรษ 1910

ในปีนี้ Harley-Davidson ได้ส่งออกรถมอเตอร์ไซค์ไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่นเป็นครั้ง นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการจำหน่ายรถนอกประเทศอเมริกา และเติบโตไปจนจำหน่ายใน 200 ประเทศทั่วโลก

1913

1914

รถ Side Car ได้ถูกจำหน่ายให้กับลูกค้า Harley-Davidson รวมไปถึงแป้นเหยียบคลัชท์และเบรคในรถที่ใช้เครื่องยนต์ F-Head ทั้งแบบสูบเดียว และสูบคู

บริษัทได้ร่วมเข้าแข่งขันรายการแข่งรถจักรยานยนต์อย่างเป็นทางการ โดยมีวิศกรประจำสนามแข่งคนแรกคือ William S. Harley ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ทีม Harley-Davidson ได้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “Wrecking Crew” อันเนื่องมาจากผลงานการแข่งขันอันเหลือเชื่อและโดดเด่น

ระบบขับเคลื่อนดุมหลังแบบ 2 ระดับ ได้ถูกนำมาใช้ในช่วง 2 ปีนี้ในรถรุ่น 10F ถูกจดสิทธิบัตรในนามของ William S. Harley ซึ่งใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ต้องหยุดการผลิตลงเนื่องมาจากพัฒนาการของระบบส่งกำลังแบบ 3 ระดับที่ถูกนำมาแทนที่ในปี 1915

1915


 ในปีนี้รถของ Harley-Davidson ได้ใช้ระบบเกียร์แบบ 3 ระดับ และชุดส่งกำลังทั้งหมดอยู่ด้านซ้ายเป็นครั้งแรก

1916


 
นิตยสาร The Enthusiast เริ่มต้นขึ้นจนถึงปัจจุบัน และถือว่าเป็นนิตยสารสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่มีการพิมพ์อย่างต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดในโลก

1917

ในปีนี้ คาดว่ารถที่ถูกผลิตขึ้นถึง 1 ใน 3 ได้ถูกจำหน่ายให้กับกองทัพสหรัฐ และโรงเรียนการอบรมเทคนิคการผลิตของ Harley ได้กลายมาเป็นโรงเรียนสอนช่างเครื่องยนต์ของกองทัพเพื่อที่จะได้ซ่อมรถของ Harley-Davidson ที่ใช้ประจำการ ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็น โรงเรียนสอนการซ่อมบำรุง

1918

รถที่ผลิตขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งถูกขายให้กับกองทัพสหรัฐเพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อสงครามยุติลงได้มีการประมาณไว้ว่ารถที่ใช้ในสงครามมีอยู่ราว 20,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถ Harley-Davidson วันหนึ่งหลังจากมีการเซ็นต์สัญญาสงบศึก Roy Holtz แห่งChippewa Falls รัฐ Wisconsin เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่เข้าสู่เยอรมัน เขาขี่รถ Harley-Davidson

1919

รถสปอร์ตของ Harley ขนาด 37 ลูกบาศน์นิ้ว สูบคู่ตรงข้ามได้ถูกวางจำหน่าย และเป็นที่นิยมไปทั่วถึงต่างประเทศ ไม่เพียงแต่รูปแบบเครื่องยนต์ที่ใช้สูบวางตรงข้ามและเป็นระนาบเดียวกันเท่านั้น แต่รถรุ่นนี้ยังได้ชื่อในเรื่องของความเงียบที่ไม่ธรรมดาในยุคนั้น