นับจากงานเปิดตัวร้าน Shovelheat 8080 อย่างเป็นทางการที่ผ่านมา วันนั้นผมไปถึงงานด้วยสภาพเปียกทั้งตัวจากการขี่รถลุยฝนกลับจาก นครสวรรค์ ทั้งหนาวทั้งแฉะ แต่เมื่อมาถึงบริเวณงาน กับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วย Vodka เพียวๆ ทำให้ดีกรีร้อนของแอลกอฮอล์ช่วยไล่ความหนาวของฝนไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานในวันนั้นสนุกสนานและเป็นกันเองด้วยบรรยากาศของพี่ๆน้องๆชาว 2 ล้อ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับร้าน Shovelheat 8080

แต่หลายๆ ท่านคงจะอยากรู้ความเป็นมาของร้านแห่งนี้ว่า ก่อตั้งมาอย่างไร มีบริการอะไรบ้าง หรือถนัดในงานเฉพาะ Shovel Head หรือเปล่า HDP จึงขออนุญาตพี่ๆแห่ง Shovelheat 8080 จัดทำบทความเพื่อให้เพื่อนๆพี่ๆท่านอื่นๆ ได้รู้จักร้านกับแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้นครับ

ชื่อ Shovelheat 8080 มีความหมายว่ายังไงครับ คืออย่างนี้ Shovelhead ก็คือเป็นชื่อของเครื่องยนต์ ส่วน Heat ก็หมายความว่า สุดยอด heat เราแรง แล้วก็เริ่มที่ปี 80 เครื่อง Shovel ก็จะปรับมาเป็น 80 Cu. Inch. นับจากเครื่องยนต์ ผมนับจากตรงนั้น ในความสุดยอดของ Shovel ผมว่าโอเค สุดยอด แล้วเรื่องของเรื่องนี่ ตอนที่ไปอเมริกา ฝรั่งเขาถามว่าขี่รุ่นไหน อะไร อย่างไร ปรากฏว่าก็ต้องอธิบาย ของเราปีนี้นะ เครื่องเท่านี้ ฝรั่งเขาบอกว่า ที่นั่นเขาเรียกกัน 8080 ที่โน่นเขาเรียกแล้วเขาเข้าใจ ตัวนี้

ก็เลยมาเป็นชื่อร้าน
ครั้งแรกมันมากับไอเดียที่ว่า พอรู้จักกัน เป็นกลุ่มเป็นก้อน เรียบร้อย ก็อยากทำร้าน คุยกัน 5-6 ปี ตั้งแต่สมัยไปมอเตอร์โชว์กัน ร้านชื่ออะไรดี Shovelheat ไหม เราก็ชอบชื่อ ก็น่าสนใจ 8080 มันก็โอเคในตัว บอกความหมาย ก็เป็นแบบนี้ไปแล้วกัน เพราะทุกวันนี้เวลาคนเรียก บอกไปร้านไหน ไปร้าน 8080 ก็ง่ายจริง ๆ มันเริ่มต้นมาจากที่เรารู้จักกัน แต่ว่าบางส่วน รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เรียนรังสิตมาด้วยกัน แล้วก็แจ๊คเขาเป็นเพื่อน กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่ม แล้วก็คุยกันไป เที่ยวกันไป เที่ยวกันมา จนแบบว่า คลับเฮาส์ อยากมีไหม เพราะพวกเราก็รวมตัวกัน เป็น chapter แล้ว ก็ให้มันมีสถานที่ของพวกเรา บวกกับที่ ต่างคนก็ต่างชอบที่จะทำรถ ทำอะไรอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นเปิดเป็นร้านไหม บวกคลับเฮาส์ด้วย เป็นที่มา
 

จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำเลย ไม่ได้อยากทำเลย เพราะว่า ในแต่ละคนก็มีงานประจำของตัว ไม่มีเวลากัน อย่างเอกนี่ก็ จริง ๆ ก็เคยทำเซรามิค แล้ววันหนึ่งก็ไม่อยากทำเซรามิคแล้ว อยากทำมอเตอร์ไซค์ ก็ออกมาเปิดทำที่บ้าน เราก็สมมติว่า ถ้าเอกทำที่บ้าน รถทุกคนก็ทำกับเอก แจ๊คช่วยกันทำ ทำไป ทำมา ถ้ามันมีสถานที่ หาสถานที่สักที่หนึ่ง ทำรถพวกเราด้วย เป็นคลับเฮาส์ของพวกเราด้วย ทำรถให้คนอื่นด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำเฉพาะ Shovel ที่อยากบอกเลยจริง ๆ คือ ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะ Shovel เคยมีคนถาม ก็บอกทำหมดนั่นแหละ แต่ยกเว้นพวกทวินแคมพ์ ในปีใหม่ ๆ 07-08 คงให้ผู้ชำนาญเขาทำดีกว่า แต่ถ้าอนาคต เรายังไม่รู้ ถ้ามันโอเค ก็ทำให้ได้ เพราะว่าไปเรียนทวินแคมพ์ ถ้าไม่ปิดซะก่อน
 

พี่แจ๊คเคยไปฝึกงานอยู่ที่ร้าน Harley ในอเมริกา ไปไงมาไงครับ
ก็คือผมมีคนในกลุ่มของผม ผมมีเพื่อนเป็นฝรั่ง บินมาเมืองไทย เขาเป็นดีลเลอร์ อยู่ทางที่เบอร์ริงแฮม ที่วอร์ชิงตัน ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือแล้ว ผมบอกว่า ผมชอบ ผมอยากไป ทำอย่างไรดี มันก็บอก โอเคแจ๊ค เพราะฉะนั้น you ไปหาหนทางไปให้ได้ แล้วไปที่โน่น เดี๋ยวมันก็รับส่งต่อเอง เราก็หาทางไป เพราะตอนนั้นผมอยู่พัทยาด้วยไง ผมก็พามันมารู้จักแพททริค เจ้าของร้าน แล้วก็คุยกัน ช่วยให้เราไป ก็ไปเริ่มฝึกใน shop ส่วนใหญ่ก็เป็นรถปีใหม่ๆ เราก็ดู การเปลี่ยนพวกสเตจ 1 สเตจ 2 เพราะทวินแคมพ์ มันจะมีชุด Screamin’ Eagle บอกว่ามี สเตจ 1 สเตจ 2 เปลี่ยนอะไร อย่างไร วิธีดูค่า วิธีเช็คอะไรอย่างนี้ แล้วสุดท้ายตอนหลังก็ไปอีก shop หนึ่ง ไปที่ เซาท์ดาโกตาร์ Sturgis อยากไป เพราะว่าตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซค์มานี่ สิ่งที่อยากไปคืออยากไป Sturgis กับไปถ่าย Rushmore ภูเขาที่มีรูปประธานาธิบดี อยากไปแค่นั้น วันแรกที่ไปอเมริกาเหนือก็บอกเพื่อน อยากไปตรงนี้ ก็ไป มันก็ส่งไปอีก shop หนึ่ง ซึ่งอีก shop หนึ่งก็เป็น shop แบบที่นี่แหละะ แต่เครื่องไม้เครื่องมือครบนะ คือถ้าในอเมริกา รถประเภทนี้ ดีเลอร์ไม่รับเลย ก็ต้องไปหาพวก shop ต่างๆ เอา
 

ไม่รับพวกรถเก่า?
สมมติถ้าเป็นดีเลอร์นะ ดีเลอร์มันตัดปี สมมติว่า เขาเข้าไปดีเลอร์ ถ้าสมมติว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาของอีโว ก่อน อีโวเขาจะตัดทิ้ง จะไม่รับ แต่มันจะมี shop เล็ก shop น้อย ที่ไม่ใช่ดีเลอร์ ซึ่งตรงนั้นมันก็จะเป็น shop ที่ซัพพอร์ต รถพวกรถนี้ไป ตอนนั้นไปประมาณปี 03-04 เซาท์ดาโกตาร์ นี่มันเป็นเมืองมอเตอร์ไซค์ เหมือนรถเล็กบ้านเรา ทุก ๆ บ้านจะขี่ฮาเลย์นะ ผู้หญิงก็ขี่หมด รถที่นั่น อเมริกา จะคุยในเรื่องความแรง แล้วปีใหม่ ๆ ก็จะเปลี่ยน Cam ก็แต่งกันเต็มที่ เพราะว่าถนนในอเมริกานี่ เวลาขับไกล ๆ นี่ ลมมันแรง ก็ผมช่วงนั้นขี่ไปที่นิวเม็กซิโก เราบิดหมดไมล์ Sportster เลย พวกทิ้งเราเป็นร้อยเมตรเลย ไล่อย่างไรก็ไม่ทัน
 

ก็ทำอยู่ shop ดีเลอร์ด้วย และทำ shop เล็กด้วย
ดีเลอร์มันก็ได้ในรถใหม่ ๆ แต่ฝรั่งที่โน่น ถ้าดีเลอร์ จะไม่ Friendly คือมันจะมองว่าเราเป็นใคร มาทำอะไร แต่ถ้าความละเอียด ผมว่าช่างเมืองไทยละเอียดกว่า เขาก็จะเทรน ก็คือว่า วันนี้ ชุด set up สเตจ 2 มา ก็จะดู มีอะไรบ้าง โอเค ตรงนี้ถอดตรงนี้แล้ว เจออะไรบ้าง ทวินแคมพ์รุ่นแรก ๆ ระหว่างปี 1999-2000 มันรถมีปัญหา เขาก็จะบอกว่า ปัญหาเกิดจากอะไร ลักษณะนี้ พอเกิดจากอะไร มันก็โอเค ต้องเปลี่ยนแบบนี้ ปัญหาข้อปั๊มน้ำมันเครื่องทวินแคมพ์ เกิดจากอะไร ก็จะบอก จนจบ
 

แล้วอย่างพวก Panhead, Knuckle Head เค้ามี Train ด้วยไหม ส่วนใหญ่ถ้าคนที่โน่นนะ เขาทำเองทุกบ้าน ถ้าระดับ Panhead นะ พวกนี้จะทำกันเอง จะรวมทำเอง ทุกบ้านนี่จะเครื่องมือเยอะกว่าของเรา แล้วเครื่องมือเขาถูกด้วย คนอเมริกัน do it your self อยู่แล้ว นึกออกไหม แม้กระทั่งเปลี่ยนหลังคาบ้าน ก็ทำเอง รถก็เป็นเรื่องธรรมดาแต่ฝรั่งมันก็อึ้งๆ เราเยอะนะ มีอยู่ทีหนึ่ง ผมเจอสองครั้ง ทำรถนี่ ผมก็ทำตั้งวาลว์ ทุกชุดแคมพ์ฝั่งนี้ Shovelhead ผมก็ยืนทำ แล้วก็ Kick ๆๆ แล้วก็ดู มันถามบอกว่า ไม่ดูมาร์กเหรอ ผมก็บอก ผมดูวิธีนี้ มันก็ไปถามอาจารย์ผม อาจารย์ผมนี่อยู่เท็กซัส เป็นคนที่เก่งมาก ทำพวกรถ Drag ลงหนังสือ ดังมากในเท็กซัส เขาเรียกตัวเองว่าเขาไม่ใช่ Mechanic แต่เขาเป็น Engine Dealer คือ อย่างเสื้อ Sportster แต่ใส่ท็อปของ Pan อะไรอย่างนี้ ทุกวันนี้ที่ Chica เขาทำ เขาก็ไปถามว่า ที่แจ๊คพูดน่ะ ถูกไหม เค้าก็บอกว่า ใช่ ทำไปเลย

แล้วพอไปอีกที่หนึ่ง ตอนนั้นไปอีกเมืองหนึ่ง เมืองมอนทาน่า ก็ไปบ้านที่ว่าเขามีอินเดียน สะสมรถโบราณ รับ Retro รถโบราณ เขาได้ shovel มา สตาร์ทแล้วดัง เครื่องน่ะ ก็ช่วยกันรื้อออกมา เสร็จปุ๊บ เขาก็ไปยกฝาออกมาละ แล้วก็คาอยู่อย่างนี้ ไม่ได้ใส่คืน เราก็รื้อ Push Rod ออกมา พอเราวิเคราะห์ให้เขาเสร็จแล้วนี่ พวกฝรั่งนี่แปลกอย่างหนึ่ง คือเราอาจจะเป็นเอเชียไง มันก็ไปด้วยกันอีกสำนักหนึ่ง สำนักแต่ง ลากไปว่า เราบอกว่าเป็นแบบนี้ ถูกไหม คือฝรั่งจะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าทำรถกับฝรั่งมันจะ happy อย่างหนึ่ง เราทำรถเขาเสร็จ จบ thank you นะที่เทคแคร์รถ เขาเชื่อทุกอย่าง แล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็น ที่เป็นแนวเปลี่ยนอะไหล่น่ะนะ คืออย่างว่า มันไม่แพงมาก บ้านเราแบบเสีย ยังไม่เปลี่ยนอะไหล่ เอาเข้าโรงกลึง ซ่อมโน้นซ่อมนี่ พอมีพอใช้ไปก่อน แต่ที่โน่นแบบว่า สมมติว่าอะไหล่เสียปุ๊บ ก็เข้าดีเลอร์ เช็คลิส กลับออกมา เรียบร้อยละ มันสะดวกกว่าเยอะ

ที่นู่นเค้าใช้ระบบคิดค่าแรงเป็นชั่วโมง?
จริง ๆ แล้ว เราโอเคนะ กับเรตชั่วโมงที่เอามาปรับใช้ที่เมืองไทย แต่ไม่ใช่ ช่างไปเข้าห้องน้ำ ก็นับอยู่ในหนึ่งชั่วโมงด้วย อย่างสมมติ Estimate ว่าเปลี่ยนวาวล์ เปลี่ยนกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป ทำตรงนี้กี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป มันนับชั่วโมงการทำงาน ไม่ใช่นับชั่วโมงของการทำงานของช่าง อย่างนี้ช่างกินข้าวกลางวันก็นับอยู่ใน 1 ชั่วโมงด้วย มันไม่แฟร์ ที่นั่นมันอย่างนี้ มันกดกันเลยนะ คือมันแฟร์ไง จริง ๆ มันคือราคาต่อครั้งในการทำงาน จริง ๆ แล้วน่ะ ทำวาวล์ราคานี้ ใครต่อใครที่ยังรับ ก็ราคานี้ กี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป ค่าแรงกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป
 

แนวทางของร้าน Shovelheat
ความตั้งใจของร้านนี้ จริง ๆ เลย อยากทำรถ คือทำ Custom Bike สักคันหนึ่ง มีความตั้งใจเลยนะ ตกแต่ง Customize คือแบบ นั่นคือความตั้งใจ Customize ในเมืองไทยมันยังไม่หลากหลาย กลุ่มคนยังไม่กว้างมากไง แต่มันก็ต้องมีมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เช็คผ้าเบรก ตรงนั้นมันส่วนประกอบ แต่ว่าถามว่าความต้องการของร้านจริงๆ แล้ว คืออะไร คือ Customize มากกว่า ถามว่า Old School New School เราก็เลยคิดแท็กไลน์ของเราก็คือว่า No School นึกออกไหม
 

ถ้าวันนี้ คนบอกว่า แต่งรถแบบ Old School ก็คือแบบหนึ่ง แต่รถแบบ New School ก็คือแบบหนึ่ง Custom ก็คือแบบหนึ่ง ถามพวกเรา พวกเราก็คือ No School ไม่มีโรงเรียน ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหน อาจจะเอารถเก่ามาทำแบบใหม่ รถใหม่มาทำแบบเก่า รถใหม่ทำแบบใหม่ ทำได้หมด อย่าง Steed ก็ทำให้นะ Steed, SR ทำให้ จัดทรงนะ ไม่ใช่ว่า Steed อยากจะแต่งเป็น Harley อันนี้ไม่เอานะ Steed อยากเป็น Old School โอเค เราอาจจะเอาถังฮาเลย์มาใส่ แล้วจะคุยกัน ทำให้ เพราะจริง ๆ แล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็น Harley ทั้งหมด ขอให้มันเป็น โอเคเครื่องมันดูโอเค ทำเฟรมออกมา ทรงมันโอเค เราจะทำเป็นแนวมากกว่า ไม่ได้ทำเฉพาะรถรุ่นนั้น รุ่นนี้ หรือว่ายี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้
 

พูดถึงเรื่องการซ่อมรถ
คือร้าน เราใช้ประสบการณ์ทำให้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่ามาทำกับเรา สมมติว่าทำเครื่องกับเราแล้ว คุณออกจากนี่ไป คุณต้องจบ เพราะว่าคุณไปทำดีเลอร์ คุณก็ไม่จบเหมือนกัน รถมันไม่เหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่เราทำให้ เราไม่ได้ Fake เราตั้งใจทำ อย่างแรก สมมติรถเข้ามานี่ เสียงตัวก้านกระทุ้งดัง เราก็มองไปแล้ว ใช้น้ำมันเครื่องอะไร ถ้าคุณใช้น้ำมันเครื่องเกรดตามปั๊มทั่วไป เราก็แนะนำว่า โอเค หรือคุณจะซื้อน้ำมันเครื่องที่มันดีหน่อย ในเกรดที่คุณควรจะใช้ ลองใช้ดูก่อน คือเราก็วิเคราะห์ คือโอเค ถ้าไม่หาย แล้วอย่างไรต่อ บางคนสมมติ ตั้งวาวล์ มันอาจจะไม่ใช่วาวล์เพราะรถที่เครื่องดังนะ วาวล์หลวมก็ดัง Lock Arm Clearance ไม่ได้ก็ดัง ฉะนั้น บอกไม่ได้ทันที
 

แต่ถ้าเราเปิดมา เราก็ใช้วัดละเอียด เพราะว่า เราเดาเอาไม่ได้ หนึ่งส่วนพัน ไม่มีใครเดาได้ จะทำรถประเภทนี้มากกว่า แต่ผมไปเจอบางคนที่ทำรถนี่ อย่างในอเมริกามี เขาบอกว่า เขาเปลี่ยนท็อปเอ็น เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างใหม่หมดเลย แต่รถเขามีควัน ฝรั่งบอกว่าไงรู้ไหม ฝรั่งบอกว่า แล้วมันวิ่งดีไหมล่ะ ควันมีผลอะไรไหม ไม่มี ก็ลืมมันซะ ช่างมันเถอะ มันก็เป็นไปได้ ทุกอย่างมันเป็นไปได้หมด คือว่า คนเรา บางทีมันแบบ สนใจในรายละเอียดเยอะไป สมมติว่ารถเสียงดัง สตาร์ททีเดียว คิกทีนึง ติดมั้ย วิ่งดีมั้ย ดี แล้วคุณจะไปสนใจเสียงทำไม
 

อย่างเรื่องอะไหล่ของ Harley
เชื่อไหม อะไหล่ฮาเลย์ทุกวันนี้นะ ผมว่าหาง่ายกว่ารถญี่ปุ่น แล้วก็ถูกกว่าด้วย เราว่าส่วนหนึ่งเพราะโลกมันเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเพราะโลกมันแคบลง สมัยก่อน เมื่อตอนที่รถญี่ปุ่น มันใกล้ประเทศไทย คือรถเก่าจากญี่ปุ่นมาที่เมืองไทยมันเยอะ รถจากอเมริกามันน้อย ปัจจุบันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ต้องปรับความเข้าใจกับโลกทุกวันนี้ด้วย เราเชื่อว่าทุกคนก็สามารถจะออนไลน์ แล้วสั่งต่างประเทศได้ แต่ว่าที่เราพูดขึ้นมานี่เพราะว่า เรารู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าอะไหล่ชิ้นนี้ เพื่ออะไร ใคร ๆ ก็สั่งได้นะ เรานี่เคยสั่งผิดมา มากกว่าครึ่งที่สั่งอยู่แล้ว
 

ถ้าลูกค้าซื้ออะไหล่มาเองให้ช่วยเปลี่ยนให้
ก็ยังทำ มีรุ่นน้องนี่ เอารถมาจอด มันก็ทำของมันเอง เราก็ไม่ได้ชาร์จอะไร จะหยิบยืมเครื่องไม้เครื่องมือ มันเริ่มจากความเป็นเพื่อนไง หรือว่าเราทำธุรกิจไม่เป็นก็ไม่รู้นะ
 

ถ้าอย่างลูกค้าเดินเข้ามาแล้วอยากได้รถ Custom ซักคัน
ก็อธิบายเรื่องงบประมาณก่อน ว่าพี่งบประมาณแค่ไหน งบประมาณนี่ไม่ได้หมายความว่า ทำรถแสนนึง ค่าแรงแสนนึง เราก็จะตีว่า ถ้าพี่มีงบแสนบาท พี่ก็จะได้ ไอ้นี่ประมาณนี้ ไอ้นี่ประมาณนี้นะคำถามแรกที่เราจะถามก็คือว่า มีงบเท่าไหร่ เพราะมันเป็นเรื่องของดีเทลแล้ว คุณจะใช้เบรกรุ่นนี้ หรือคุณจะใช้กระจกข้างรุ่นนี้ มันเป็นเรื่องของดีเทล มันตอบไม่ได้ พอถามมีงบเท่าไหร่ เหมือนเราไปเค้นเขา แต่จริง ๆ เราอยากจะรู้ว่า จะจัดของให้ได้แค่ไหน มันต้องสัมพันธ์กัน ความต้องการ กับงบที่มี เรามองว่าเบรกสต๊อคก็สวยนะ ไม่ใช่เบรกต้องเป็น PM ชุดคอนโทรล ต้องเป็นยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ ไม่จำเป็นนะ หรือว่าจะต้องล้อโตเท่าไหร่ เราไม่คิดไง เราคิดว่า โอเคคุณชอบรถแบบไหน มานั่งคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แล้วก็ตกลงไปตามในสิ่งที่คุณสามารถ ซัพพอร์ตได้ เพราะว่าพวกเราเองก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
 

มันก็มีอย่างลูกค้าเข้ามาบอกว่า ผมอยากได้ Steed ผมมีงบอยู่แค่นี้ เราก็บอกว่า ถ้าเกิดคุณมีงบอยู่แค่นี้ คุณไปเล่นตัวต่ำว่านี้อีกนิดหนึ่ง ดีไหม ถูกกว่า อะไรอย่างนี้ ก็คือจะแนะนำ พูดคุย แล้วทำไมถึงอยากเล่น Steed หรือบางคนอยากได้ SR มันต้องมีปัญหาเรื่องทะเบียน เรื่องอะไรอย่างนี้ คุณซื้อรถ บางทีผมก็จะถามไงว่า ต้องการใช้งานขี่เที่ยว หรือถ้าคุณต้องการใช้งานทุกวัน คุณต้องหารถมีทะเบียน แต่ถ้าคุณนาน ๆ ขี่ที โอเค invoice คุณอาจจะไม่สนใจ คุณออกได้อยู่แล้ว ก็จะแนะนำให้
 

ปัจจุบันร้านเปิด-ปิดกี่โมง
ความตั้งใจก็คือเปิด 11.00 ปิด 22.00 นั่นคือความตั้งใจนะ แต่ทุกวันนี้ยังวิ่งมาหาลูกค้าตอนบ่ายสองว่า ร้านไม่เปิดเหรอพี่ คือตอนนี้มันเพิ่ง Set Up ไง คือบอกก่อนเลยว่า พวกเราไม่เคยทำ Business เพราะฉะนั้น ความลงตัวยังไม่มี อาจจะต้องขอเวลาสักเดือนสองเดือน เพื่อจะ Set Up ทุกอย่างให้ลงตัวก่อน ที่คิดไว้ เพราะทุกคนก็มีงานประจำ พอถึงเวลาที่มันจะต้องแบบว่า ร้านมัน Set เป็นรูปแบบจริง ๆ มันคงจะต้องมีคนมาช่วยเพิ่ม ตอนนี้ก็ลองทดลองดู แต่ว่าคิดว่าเดือนหน้า น่าจะลงตัวกว่านี้
 

มองเรื่อง Bike Week บ้านเรา มันเยอะไป คือผมมองว่า ทำไม Bike Week ไม่มีมอเตอร์ไซค์ไต่ถัง ผมไม่เคยเจอ Bike Week แบบมีมอเตอร์ไซค์ไต่ถัง ให้คนดู หรืออะไร ทำไมมันต้องเป็น Pattern มันไม่ใช่ เราไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องเหมือนกัน เป็น Pattern หมด เพราะ Bike Week จริง ๆ มันเพื่อโอเค เพื่อให้ขี่รถไปถึงจุดหมาย จุดหมายหนึ่ง

แต่ปัจจุบันนี้นี่ ความสนุก มันอยู่ระหว่างทาง มันไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย ทำไมมันไม่ทำให้ความสนุกมันอยู่ที่จุดหมาย มากพอ ๆ กับระหว่างทาง บางงานผมไปปุ๊บ อยากกลับเลย มันหมดแล้ว ความสุขบนท้องถนน ที่อเมริกา ผมขับรถสามวันสามคืน เจ็ดโมงเช้าขับ ทุ่มหนึ่งเข้าโรงแรม ตื่นมา 7 โมงเช้า ออกต่อ เกือบ 5,000 ไมล์ ไปถึงแล้ว ก็ยังมัน

พูดถึงทริปที่ไปแล้วประทับใจ
ทุกทริปดีกว่า มันทุกทริป เชื่อไหม พวกผมขี่จากกรุงเทพฯ ไปพัทยา ใช้เวลา 8 ชั่วโมง โคตรสนุกเลย สนุกมาก มีโน่นมีนี่ จากกรุงเทพฯ พัทยา 8 ชั่วโมง แล้วมีอะไรอีก แต่เชียงใหม่นี่ 12 ชั่วโมง ถึงนะ รถเก่า ๆ กันหมดเลย ที่หนัก ๆ คราวนั้นมันติดฝน จากศรีราชาไป พัทยา 3 ชั่วโมง ยืนอยู่ใต้สะพานลอย ไปหลบฝนกัน กับพวกหน้ายาว พวกอะไร เยอะมาก มันเหมือน ปาร์ตี้เล็ก ๆ บางคนเดินซื้อเบียร์มานั่งกิน ระหว่างคอย คือจริง ๆ แล้ว พวกเราคิดกันมาตั้งนานแล้วว่า อยากจะจัดทริปของตัวเองสักครั้งหนึ่ง แล้วก็ โอเค ใครคิดเหมือนกัน ก็ไปด้วยกัน โดยที่แบบไม่ได้คิดว่า อาจจะเซ็ทว่าจุดนี้ จุดสุดท้ายคืออะไร สมมติว่าปากช่อง ก็ไปกัน โดยที่แบบ ไม่ได้กำหนดว่า คุณต้องถึงเวลานี้ งานจะเริ่มเวลานี้ จะต้องกลับเวลานี้ ตีซะว่า สองวัน เราก็ลองขี่กันไปเล่นๆ เหมือนกับ จริงๆ แล้วมันเหมือนกับ ขี่ไปกับคนที่เข้าใจ สมมติว่า ลองคิดถึงพวกผม ขี่รถไปกับ 105 ปี เขาคงรำคาญพวกเรามาก เขาคงโคตรรำคาญเราเลย ซึ่งเราเข้าใจเขาไง มันไม่ใช่ความผิดเขา มันคือความผิดของพวกเรา แต่ว่า เราก็สนุกของเราแบบนี้
 

ด้วยรูปแบบร้านที่เป็นกันเอง การบริการที่เข้าถึงหัวใจของผู้ใช้รถเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งจะเข้ามาขอยืมใช้เครื่องมือในการซ่อมรถ ซึ่งทาง Shovelheat 8080 ให้บริการได้ทุกรูปแบบ ยิ่งงานถนัดๆอย่างการสร้างรถ Custom Bike ขึ้นมาซักคัน ก็สามารถแวะเข้ามานั่งดื่มเบียร์พร้อมพูดคุยกันก่อนได้

ในค่ำคืนวันที่เข้าไปทำบทความ อากาศเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว พื้นถนนแห้งสนิท เหมาะสำหรับการนำรถ Shovel Head ในสไตล์ No School ออกวิ่งซะจริงๆ ยิ่งได้ขี่เทียบกับรถของพี่เอี้ยง ในคืนก่อนหน้านั้น ได้ยินเสียงระเบิดของเครื่องเสื้อเหล็กที่ผ่านท่อแบบไม่มีไส้ มันช่างแตกต่างจากเสียงของเครื่องยนต์ Evolution ซะจริงๆ นี่คือเสน่ห์อีกมุมหนึ่งของ Harley-Davidson ที่ Shovelheat 8080 รู้จักเป็นอย่างดี