แล้วอย่างเรื่องการจัดทริปของ V-Speed
จริงๆ แล้ว เรากล้าพูดเลยว่า เราเป็นคนริเริ่มการจัดทริป เป็นลักษณะเหมือนกึ่งทัวร์ เราทำมา 3 ปีติดต่อกัน ตอนเริ่มแรกเลยเนี้ย ผมมีความรู้สึกว่าบ้านเราเวลาออกทริปกันเนี้ยยังไม่มีความเป็นระเบียบซักเท่าไหร่ เรื่องการออก เรื่องการนัด เรื่องการกินเนี้ย วุ่นวายมาก เราก้อเลยจัดมา จนได้รู้เลยว่า ถ้าคุณทำตามอย่างงี้เนี้ย ทุกคนจะ Happy หมด แต่พอเราทำมาได้ 3 ปีติดต่อกัน เราเริ่มมีความรู้สึกเกรงใจลูกค้าแล้วหล่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ทุกคนก้อจัดกันหมดเลย แล้วพอเวลาเราจัดก้อเลยรู้สึกเกรงใจลูกค้า เราจึงพักทริปอย่างงี้มาประมาณ 3 ปีแล้วเหมือนกัน ไม่ได้จัดเลย หันมาจัดแบบสั้นๆ อย่างวันเสาร์ว่างกันไหม ไปกาญฯกัน ขี่กัน 10 คัน 20 คัน ไม่ได้จัดทริปใหญ่ เพราะทริปที่ใหญ่ที่สุดของเราคือ ไปสมุย 4 วัน 3 คืน มอไซค์ทั้งหมด 55 คัน รวมคนทั้งหมด 88 คน ทำมาแล้วเรา Happy ทุกคนสนุก จริงแล้วเราก้อมีแผนเหมือนกันว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีจัดทริปไปนครวัด รอให้ทางเสร็จก่อน แต่ช่วงนี้ขอหยุดทริปยาวๆก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ทริปเยอะมาก แต่ทริปสั้นๆยังคงมีอยู่ เรียกว่าเดือนนึงต้องมีซักครั้ง สองครั้ง จริงๆแล้วผมเป็นคนชอบขับนะ ไม่ชอบทำร้าน แต่ที่ต้องทำเนี้ย เพราะว่าไม่รู้จะไปทำอะไร ฮ่าๆ
 

อย่างงี้ถ้ามีคนมาอ่านบทความแล้วเค้าอยากจะมาขอแจมด้วยจะได้ไหม
ไม่มีปัญหาครับ เพราะเราจะบอกลูกค้าทุกคนเสมอว่า V-Speed เนี้ยเหมือน Seven นะครับ คุณพอใจมาทำกับเราก้อมา เราไม่ซีเรียสนะครับ ตอนมีทริปเนี้ย มาทุกสาขา ทุกร้าน ทุกชมรม ทุกแก๊งค์ เพราะผมคิดว่า ที่เรามารู้จักกันได้เพราะ Harley ผมเชื่อว่าเราคุยกันได้ ไม่เคยซีเรียสเลย มาแจมได้หมด
 

แล้วทริปที่ประทับใจ
ผมชอบทริปแรกที่จัดลูกค้าไปประมาณ 40 คัน ชื่อทริปปลาร้าไบค์วีค ขี่กันไปอุดร อีกคืนไปพักที่เลย แล้วขี่กลับกันมา ชอบทริปนั้นมากเพราะ ทุกอย่างมันลงล็อคหมดเลย ถึงขนาดที่ว่าเข้าไปปั๊มแล้วเนี้ย เด็กเสริฟโค้กได้เลย เรากะทุกอย่างได้ตรงเป๊ะๆ เราวางแผนไว้ล่วงหน้าถึง 2 อาทิตย์ เรารู้เลยว่าเข้าไปปั๊มหน้าต้องมีน้ำกินแล้ว Happy กันมาก ทุกอย่าง Perfect หมดเลย แล้วอีกอย่างเพราะเป็นทริปที่ผมได้ขี่ด้วย แต่หลังจากนั้นมาจะเจอทริปที่เหนื่อยมาก เพราะเป็นทริปใหญ่ ถึงรู้เลยว่าคนเราเวลาอยู่กันมากๆแล้วปวดหัว เหมือนจับปูใส่กระด้ง วุ่นวายมาก

แล้วถ้าเรื่องอุบัติเหตุ ผมโชคดีที่เคยแต่เกือบจะเกิด ไม่ใช่ว่าเก่งอะไรนะครับ แต่เราค่อนข้างเตรียมพร้อม อย่างหมวกกันน็อค ชุด เราเน้นมาตั้งแต่เริ่มต้น จะด้วยทักษะหรือเปล่า คงเกี่ยวกับร่างกายเราพร้อมมากกว่า เพราะเวลาขี่ผมจะไม่กินเหล้า สวมหมวก Full Face จะได้มีเวลาคิด ทั้งทริปยาว ทริปสั้น ผม Full Face ตลอด เพราะอย่างหมวก Half Face เนี้ย คุณต่อสู้กับลมคุณก้อเหนื่อยแล้ว เจออะไรตัดหน้าคุณก้อไม่ได้คิดแล้ว แต่ถ้า Full Face เนี้ยคุณยังมีเวลาคิด 2 วิ ว่าจะหลบไปทางไหน ไปซ้ายไปขวา เรื่องอย่างนี้ผมแนะนำเลยครับ เพราะเราขี่ Harley เนี้ยไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% เพราะมันมีทั้งคนรักคนเกลียด เราไม่รู้ว่าไอ้รถเก๋งข้างหน้าเนี้ยมันจะรักเราหรือเกลียดเรา แต่ถ้าเราอุปกรณ์พร้อม สติมี ก้อสามารถช่วยได้เยอะ เรื่องเหล้าเนี้ยคงห้ามกันไม่ได้ แต่ขอให้เพลาๆกันหน่อย เพราะถ้าห้ามเลยคงขาดสีสรรของคำว่า Harley อย่างหลังๆมาเราจะวางแผนว่าพอถึงที่ปุ๊ป เราจะหาที่กินอาหารกันไม่ไกลโรงแรม หรือไม่ก้ออยู่โรงแรมไปเลย จะได้เมากันอยู่ที่นั่น

ถ้าให้พูดถึงอดีตจนถึงปัจจุบันของวงการ Harley บ้านเรา
ในทัศนะส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ ในทางที่ดีขึ้น แต่แน่นอนในกลุ่มก้อนของทุกสังคมก้อต้องมีคนที่ไม่ดี แต่หลักแล้วคนที่ดีมีเยอะกว่า อย่างสมัยก่อนเนี้ยซัก 15 ปีก่อน ถ้าออกทริปกันที นัดกัน 8 โมงกว่าจะได้ออกก้อบ่ายสอง กว่าจะไปถึงที่กันจริงๆเนี้ย อย่างพัทยาต้องเตรียมตัวกันวันสองวัน กว่าจะไปถึง 6-7 โมง เดี๋ยวคันนั้นเสีย เดี๋ยวคันนู้นมีปัญหา เดี๋ยวนี้มันพัฒนาขึ้น อย่างพัทยาเหรอ เดี๋ยวนี้ออกกัน 5 โมงเย็น มันเปลี่ยนแปลงดีขึ้น อย่างการซ่อมได้มาตรฐานขึ้น คนขี่รู้จักรักษารถมากขึ้น มีรถสภาพดีๆเข้ามาเยอะขึ้น คนขี่เยอะขึ้น ดูแล้วน่าจะมีถึงหลัก 3-4 พัน มากที่สุดในเอเชียรองจาก ญี่ปุ่นและออสเตรเลียเท่านั้นเอง อย่างสิงคโปร์กับมาเลเซียเนี้ยเราเหนือกว่าเค้าเยอะ หลายช่วงตัว

แต่ถ้าเทียบถนนขี่แล้ว
มันแล้วแต่มองนะ ส่วนตัวพี่แล้ว พี่ชอบขี่เมืองไทยนะ พี่ไปขี่อเมริกา พี่ก้อไม่ชอบ แต่อย่างนี้แล้วแต่คนนะครับ อย่างคุณไปขี่อเมริกา รถเก๋งแซงคุณหน่ะ มันมี Speed Limit หน่ะ แต่คุณขี่เมืองไทย คุณเหนื่อยคุณเข้าปั๊ม คุณกินซาลาเปา กินเบียร์ได้ ทุกอย่างมัน Enjoy มันได้หมด แต่ต้องยอมรับว่าไอ้ถนนบ้านเรามันมีสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้เกิดขึ้นเสมอ อย่างหมาตัดหน้า มันทำให้คุณต้องตื่นตัว เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่อื่นไม่มีนะ คือเรามองให้จุดที่ไม่ดีให้กลายเป็นจุดดีได้หน่ะ อย่างขี่ในอเมริกาเนี้ย ขี่หลับนะ พี่เคยขี่จาก Texas ไป Austin หน่ะหลับนะ ตรงสุดลูกหูลูกตา พักเข้าปั๊ม แล้วก้อตรงงงงง ไม่หนุกอ่ะ บ้านเราเนี้ยนะ เจอกระบะตัดหน้าบ้าง เจอหมาบ้าง ผมว่ามันได้อารมณ์นะ เหนื่อยหน่อยแวะเข้าปั๊ม กินเบียร์ กินซาลาเปา อำคนโน้น อำคนนี้ Relax เดี๋ยวขี่ต่อ แต่ที่อื่นไม่มีนะครับ แต่เรื่องถนนไม่ดีเนี้ย ผมว่าเดี๋ยวนี้ดีขึ้นมาก มันยังสนุกอยู่ แต่ถ้าพวกรถแรงๆ เนี้ย เค้าอาจจะไม่สนุกเท่าเรานะ
 

ถ้ามาดูแนวโน้มวงการ Harley บ้านเราหล่ะครับ
ผมบอกได้เลยว่า เพิ่มขึ้นแน่นอน อย่าง Harley เนี้ยถ้าภาษาผม ถือว่าเป็นความฝันของลูกผู้ชาย และผมเชื่อได้ว่าเป็นความฝันที่ทุกคนหาได้สำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันละล้าน อย่างรถเก๋งเนี้ยก้อต้อง Ferrari แต่ผมว่ามันเป็นความฝันจริงๆ เพราะมันแตะไม่ได้เลย แต่มอไซค์มันแตะได้ จากที่ผมขี่ Harley มา 17 ปี ทำร้านมา 9 ปีเนี้ย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นยังไง คนเล่น Harley เพิ่มขึ้นตลอด เพียงแต่ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปนิดๆ หน่อย
 

แล้วเรื่องการจัดงานมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบัน อย่างคำว่า Bike Week เนี้ย มันก้อดีนะครับ มันเหมือนมีกิจกรรมให้คนขี่มีทางเลือกมากขึ้น แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวคือ มันเริ่มเยอะจนพอได้ฟังคำว่า Bike Week มันไม่มีความตื่นเต้นแล้ว จะรู้ได้เลยว่าบรรยากาศจะต้องเป็นยังไง มีเวที มีโต๊ะกินข้าว เหมือนแวะไปงานคอนเสิร์ตลูกทุ่งหน่ะ แวะกินเบียร์ กินอาหารตามซุ้ม ผมว่าไม่ใช่หน่ะ โดยส่วนตัวผมแล้วผมว่าไม่ใช่ ยิ่งช่วงที่ผ่านมาปีสองปีมาเนี้ยผมว่าน่าเบื่อ ไม่สนุก แต่ถ้าสำหรับคนใหม่ๆมันก้อโอเคนะ แต่ในอนาคตผมก้ออยากเห็นคนที่สามารถ organize งานได้เป็นงาน Harley จริงๆ ไม่ใช่เหมือนไปดูละคร ไปดูคอนเสิร์ต

 

อย่าง Bike Week Bangkok เนี้ย เคยมีไอเดียไหมครับ เคยมีครับ ผมเคยมีความคิดเลยว่าผมอยากจัด แต่ยังหาแนวร่วมที่คอเดียวกันไม่ได้ เพราะผมมีความคิดว่ากรุงเทพต้องจัดได้ แต่ไม่ใช่เหมือน Bike Week ที่ผ่านมานะครับ เราอยากจัดให้เป็น Bike Week จริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีคอนเสิร์ต ไม่ต้องมีอะไร แต่อยากให้รู้ว่านี่คืองาน Bike Week Harley Only เป็นชุมนุมคนที่รัก Harley จริงๆ อาจจะมีงาน มีบูทเปิดแผ่น มีบูทเครื่องดื่ม ลงทุนไม่ต้องเยอะ แต่ทุกคนต้องขับมา ให้รู้ว่าเป็นงาน Harley เท่านั้น

มีจัดประกวดด้วยหรือเปล่า
อย่างจัดประกวดเนี้ยผมยังเฉยๆนะครับ เพราะยังมีความคิดว่าบ้านเรายังแคบนิดนึง อย่างกรรมการเราก้อไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถ้าเป็นผม ผมให้รางวัลทุกคนที่ขับ Harley มา คุณมาตรงนี้เพราะคุณรัก Harley อย่างเรื่องรางวัลประกวด ผมว่าทุกคนมองกันออกว่าคันนี้มันสวยนะ แต่ผมอยากจัดตรงนี้มากกว่า ประกาศได้เลยครับว่าถ้ามีแนวร่วมมาช่วยกัน อยากจะเป็นแบบ Bike Week จริงๆ ไม่ใช่มาดูคอนเสิร์ต
 

ถามดูจากหลายๆ กลุ่มเค้าก้ออยากจัดกัน
ใช่ครับ แต่ปัญหาคือมันต้องคอเดียวกัน ต้องจูนกันได้ อย่างเมืองนอกเค้ามีมานานแล้ว อย่างงาน Sturgis เนี้ย ทำไมคนเข้าขี่กันเป็นพันๆกิโลเพื่อไปงาน ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย เหมือนไปเจอกัน พบปะกันเท่านั้นเอง เค้าไม่ได้ขับไปไกลๆเพื่ออยากไปดูคอนเสิร์ต จะไปกินเหล้ากินเบียร์ ที่ไหนมันก้อมี ตรงนี้คือมันเป็น Point อันนึง คิดว่ามันยังใหม่อยู่ แต่ซักวันมันต้องมี แล้วผมมองว่าต้องที่ RCA คือมันเป็นจุดศูนย์กลาง นี่ไม่เกี่ยวกับร้านเลยนะครับ แต่เรามองถนนมองอะไรแล้ว มันน้องๆ Sturgis เลย อย่างแต่ละกลุ่มก้อมีเต๊นท์มีปาร์ตี้ เอารถมาจอดกัน เอาของมาขาย แลกเปลี่ยนกัน ขับรถกันไปมา วันเดียวคืนเดียวสนุกแล้ว ไม่ต้องไปลงทุนเป็นแสนๆมีเครื่องเสียงอะไร อยากสนุกก้อนี่เลย เหมาเธคไปเลยอยากสนุกก้อเข้าไป คุณก้อเอามอไซค์จอดไป ไม่ใช่รถญี่ปุ่นๆ Harley รถญี่ปุ่น แต่เป็น Harley หมด ลองดูเผื่อถ้ามีใครสนใจแล้วมาคุยกัน
 

เพื่อนๆคงจะได้ทำความรู้จักกับร้าน V-Speed เพิ่มมากขึ้นนะครับ แต่สิบตาเห็นไม่เท่ากับเข้ามาลองสัมผัส บรรยากาศร้านใหม่สไตล์ทันสมัย เข้ากับของตกแต่งบ้านแบบ Harley-Davidson ที่พี่หนุ่ยบอกว่าจะมีทยอยเข้ามาให้เลือกซื้อหาไปประดับบ้านกันเพิ่มขึ้น

กับไอเดีย Bangkok Bike Week Harley Only ที่เชิญชวนแนวร่วมทุกท่านมาช่วยกันสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง ถ้าท่านใดสนใจ ติดต่อที่พี่หนุ่ยได้เลยครับ.. ไว้พบกับ Shop Review ครั้งหน้าครับ