A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
Big Dog Motorcycles: ผู้ผลิต Custom Bike ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
By HDP PR
DATE: 2011.03.09
VIEW: 2140
POST: 0

 

จากจุดเริ่มต้นในปี 1994 จนถึงปัจจุบัน Big Dog ได้ผลิตรถ Custom Bike ออกสู่ตลาดมากกว่า 20,000 คัน จัดได้ว่าเป็นผู้ผลิตรถ Custom Bike ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาในขณะนี้ ปัจจุบัน Big Dog ได้ออกแบบรถสำหรับจำหน่ายในไลน์การผลิตอยู่ 5 รุ่นด้วยกัน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 117 คิวบิคอินช์ (ประมาณ 1916 ซีซี), ระบบเกียร์ 6 สปีด, ถังน้ำมันทรงยาว, ขับเคลื่อนแบบ RSD, ล้อหลังมหึมา 300 มม., บังโคลนเหล็ก, ส่วนประกอบย่อยชุบโครมฯ และสีสรรลวดลายกราฟฟิกของตัวถังที่มีให้เลือกมากมาย ประกอบกับชิ้นส่วนต่างๆที่ Big Dog ผลิตขึ้นใช้สำหรับ Custom Bike ของตัวเองอย่าง ชุด Hand Control – Foot Control, ครอบกรองอากาศ, ครอบคอยล์, กระจกมองข้าง หรือบางรุ่นที่ใช้ระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งได้มาตรฐานของโรงงาน Big Dog

Big Dog มีตัวแทนจำหน่ายถึง 100 แห่งใน America พนักงาน 300 คนที่ทำงานในโรงงานขนาด 175,000 ตารางฟุต ในเมือง Wichita, Kansas แต่จุดเริ่มต้นทั้งหมดเกิดขึ้นในปี 1994 ในโรงรถส่วนตัวด้วยคนเพียงคนเดียวที่ต้องการแต่งรถเพียงคันเดียวเท่านั้น

ลองมาดูประวัติคร่าวๆพร้อมรถที่ถูกแต่งโดยสำนักแต่ง Big Dog ในอดีตจนมาถึงรถที่จำหน่ายในปัจจุบันกัน

1994
Old Smokey – Big Dog #1 รถคันแรกที่ถูกตกแต่งโดย Big Dog
1995
นำรถที่ใช้เฟรมแบบที่มียางรองแท่นเครื่องมาแต่ง มีรถในไลน์ผลิต 3 รุ่นด้วยกัน
1996
ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 กับยอดขายทะลุ 100 คัน สามารถผลิตรถได้ 20 คันต่อเดือน
1997
เพิ่มไลน์การผลิตเป็น 5 รุ่น กับจำนวนพนักงาน 55 คน และตัวแทนจำหน่าย 40 แห่ง พร้อมตกแต่งสีสรรของรถและดีไซน์ใหม่ๆของล้อแม๊ก
1998
ออกรถรุ่นใหม่ที่ใช้เฟรมแบบหลังแข็ง และล้อหลังขนาด 160 มม.
1999

เพิ่มขนาดความจุเครื่องยนต์เป็น 107 คิวบิคอินช์ (ประมาณ 1750 ซีซี) กับยอดขาย 1000 คัน เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 100 คันต่อเดือน
พนักงาน 100 คน

2000
ขยายโรงงานเป็นขนาด 110,000 ตารางฟุต ด้วยรถในสายการผลิตถึง 6 รุ่น
2001
เพิ่มรถในไลน์การผลิตเป็น 8 รุ่น พร้อมเพิ่มขนาดยางหลังเป็น 230 มม. ด้วยยอดขายถึง 30 ล้านเหรียญในปีนี้
2002
เปลี่ยนขนาดยางหลังให้ใหญ่ขึ้นเป็น 250 มม. ในรถ 3 รุ่นของไลน์การผลิต
2003
นำรถรูปแบบเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ในรุ่น Chopper ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยอดขายรถในปีนี้สูงถึง 3,500 คัน ด้วยมูลค่าถึง 80 ล้านเหรียญ
2004
ครบรอบ 10 ปีของ Big Dog ด้วยยอดขายรวมกว่า 10,000 คัน ด้วยรูปแบบรถในไลน์การผลิต 6 รุ่น
2005
เริ่มทศวรรษที่สอง ด้วยการขยายเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น ชุดเกียร์ 6 สปีดจาก Baker ระบบส่งกำลังรุ่นใหม่ และระบบโช๊คหลังแบบอากาศ
2006
ยอดขายรวมปัจจุบันกว่า 20,000 คัน
ด้วยตัวแทนจำหน่าย 100 แห่ง พร้อมกับพัฒนารูปแบบรถในไลน์การผลิตให้ดูล้ำหน้ายิ่งขึ้น
2007
ปัจจุบัน Big Dog ขยายยางหลังให้ใหญ่ขึ้นไปอีกด้วยขนาด 300 มม. ในรถทุกรุ่น และเปิดแผนกทดสอบรถเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ
ของรถให้ล้ำ้หน้ากว่าคู่แข่ง

คงจะเห็นพัฒนาการของ Big Dog ตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1994 จนถึงปัจจุบันแล้วว่า มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
โดยรถของ Big Dog ในปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน คือ

K-9
CHOPPER
BULLDOG
MASTIFF
PITBULL
เครื่องยนต์ที่ใช้ในรถ Big Dog ทั้ง 5 รุ่นจะเป็นเครื่องยนต์แบบ V-Twin 45’ ขนาดความจุ 1916 cc. ระบบเกียร์ 6 สปีด ใช้สายพานเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีความแต่งต่างกัน ในรายละเอียดปลีกย่อยและรูปทรงที่ทำมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชื่นชอบรถ Custom Bike ทั้งแบบ Chopper และ Pro Street
ลูกเล่นของ Big Dog อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของสีสรรลวดลายที่มีให้เลือกอย่างจุใจ หลังจากเลือกรูปทรงรถที่ต้องการแล้ว แต่ยังไม่พอใจกับสีมาตรฐาน ก็สามารถเลือกลวดลายต่างๆได้อีก โดยจะแบ่งตามความยากง่ายของลายซึ่งมีให้เลือกเล่นถึง 8 ระดับ
Level 1
Level 2
Level 3
Level 4
Level 5
Level 6
Level 7
Level 8
หลังจากได้สีสรรที่ถูกใจแล้ว ยังมีของเล่นสำหรับชิ้นส่วนต่างๆมาให้เลือกกันอีก อย่างเช่น
ท่อไอเสีย
ชุดครอบต่างๆ
ปลอกแฮนด์และพักเท้า
พิงหลัง
ซึ่งในแต่ละรุ่นและแต่ละปีในรถของ Big Dog จะมีของแต่งที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นรถแบบ Custom Bike ในเชิงพาณิชย์จริงๆ
คงพอจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเจ้าพ่อรถ Custom Bike ของอเมริกา กันแล้วนะครับ อยากให้วงการ HD บ้านเรามีพัฒนาการอย่างนี้บ้าง ยิ่งถ้าได้ถึงขนาดสร้างและผลิตชิ้นส่วนส่งกลับไปขายในบ้านเค้าเอาดุลการค้าคืนมาบ้างหล่ะก็คงจะสุดยอดเลยครับ ถ้าเพื่อนๆท่านใดสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถแวะไปดูได้ที่ Big Dog Motorcycles ครับ

 

Share   Like
Comments