A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Trip Reviews]
 
HDP ตะลุยยุโรป 2011 ตอนที่ 2
By Lee
DATE: 2011.09.26
VIEW: 2161
POST: 2
 



มาชมภาพบรรยากาศในวันถัดไปกันครับ...

เช้าวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม เงียบทั้งเมืองครับ ที่นี่วันอาทิตย์เขาไม่ทำงานกัน ร้านอาหารไม่เปิด Super Market ก็ไม่เปิด ขนาดอาหารเช้าที่โรงแรมยังเลื่อนมาเปิดซะ 8 โมงเช้าเลย

 

 

มองออกไปนอกหน้าต่างที่ห้องพัก วันนี้อากาศกำลังหนาวได้ที่ อุณหภูมิประมาณ 8 องศาเอง



 

มื้อเช้าที่ Henry Hotel ณ เมือง Erding ประเทศเยอรมัน ชอบตับบดของที่นี่จริง ๆ มีให้เลือกหลายแบบ อร่อย ๆ ทั้งน้านน



 

วันแรก ๆ กำลังอร่อยกับอาหารฝรั่งครับ แต่พอวันท้าย ๆ เริ่มอยากกินแกงเผ็ด มันไม่ถูกปากคนไทยจริง ๆ



 

ออกมาถ่ายรูปกับโรงแรมซะหน่อย ยืนได้แป๊ปเดียวต้องรีบเผ่นกลับเข้าด้านใน วันนี้มันหนาวจริง ๆ



 

เริ่มต้นการเทรน Safety Riding สำหรับการขึ้น Alps ได้ Mr. Hans ไกด์ทัวร์คนที่ 1 เป็นผู้ทำการเทรนให้เองเลย



 

บรรดาผู้เข้าร่วมทริป ลุง Martin, Patricia และก็ลุง Peter ลุงสองคนนี้ครองแชมป์รถล้มเกือบพอ ๆ กัน แต่ลุง Martin มากหน่อย นับรวมแล้วประมาณ 3 รอบ



 

เทรนในห้องเรียนช่วงต้น เดี๋ยวออกไปภาคปฏิบัติด้านนอก



 

เสร็จแล้วก็ลงมาที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน



 

ที่จอดกว้างขวางครับ ทำเลดีจริง ๆ โรงแรมนี้ เหมาะสำหรับเป็นจุดเริ่มต้นของทัวร์มอเตอร์ไซค์



 

ลุง Mike กำลังรับรถจาก Mr. Hans... BMW R1200RT คันใหญ่ดีจริง ๆ



 

พี่จุ๊บกับ R1200GS มาครั้งนี้ต้องยอมทิ้งหมวกกะลาเอาไว้ในกระเป๋า เปลี่ยนมาเป็น Schuberth ที่ถอยออกมาจากร้าน Panda กว่า 3 หมื่นบาท เพราะที่นี่เขาห้ามใส่หมวกที่ไม่ปิดหูครับ แถมอากาศก็หนาวเกินกว่าที่จะใส่หมวกเปิดหน้า



 

มุมมองจากเจ้า Ducati Multi Strada เป็นรถ Italian ที่ทำปุ่มมาแบบพิลึกดี รุ่นนี้ใช้กุญแจแบบ Wireless Key ไม่ต้องเสียบแล้วบิด แค่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระโดดขึ้นรถแล้วกดปุ่มสตาร์ทได้เลย แต่ที่ว่าพิลึกก็คือ เวลาจะเปิด Heater ที่มือ ต้องกดปุ่มสตาร์ทระหว่างวิ่ง ไม่บอกแล้วใครจะไปรู้เนี้ย...



 

ขึ้นมาเตรียมขบวนกันอีกรอบที่ลานจอดรถข้างโรงแรม



 

ลุง Pete กับ R1200RT ที่ประเดิมวันแรกด้วยการล้มซะฝาเครื่องเป็นรอย โดนไป 200 US



 

พี่จุ๊บ กับการขี่ BMW R1200GS เป็นครั้งแรก



 

และตัวกระผมเอง กับ Ducati Multi Strada ใหม่ล่าสุด เพิ่งออกจากห้างมาสด ๆ ร้อน ๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะเอารถที่เพิ่งวิ่งมาแค่ 3 กิโลมาให้ขี่ เหมือนได้ออกรถใหม่เองเลยแฮะ

ตำแหน่งการขี่ของเจ้า MS ดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะครับ  เบาะนั่งกว้างขวาง เลื่อนไปมาสะดวก แถมไม่ลาดลงด้านหน้าเหมือนกับเจ้า Ulysses แฮนด์กว้างไปนิดนึง ถ้าเทียบกับเจ้า Black Springer แต่คงจะเป็นความกว้างมาตรฐานของรถประเภทนี้อยู่แล้ว เครื่องยนต์แรงตามแบบฉบับรถสปอร์ตแดนมักกะโรนี แต่สามารถปรับเปลี่ยน Mode การขี่ได้ถึง 4 Mode ให้เหมาะสำหรับสไตล์การขี่ วันแรกผมไม่รู้เรื่อง เขาปรับมาเป็น Urban ก็ขี่แบบนั้นไป ยังแอบคิดอยู่ในใจว่า ไม่เห็นแรงเหมือนที่คิด... ที่ไหนได้ Mode นี้เขาหดแรงม้าให้เหลือแค่ 100 ตัว จากในคอกเต็ม ๆ 150 ตัว พอปรับไปเป็น Touring กับ Sport คราวนี้เลยมันส์ไปเลย



 

ออกจากโรงแรมมานิดหน่อย มายังสนามซ้อมชั่วคราวหลังห้างใหญ่ของเมือง แต่วันอาทิตย์ปิดบริการ เลยเอามาเป็นสนามซ้อมซะเลย



 

พี่เปรียวกับ BMR R1200GS อีกคันหนึ่ง คนนี้บอกสบาย ขี่ Enduro มาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่หมวกวิบากพร้อมแว่นอย่างนี้ พี่เปรียวบอกเอาไม่อยู่มันหนาวเหลือเกิน...



 

ผู้เข้าร่วมเทรนทั้งหมด 6 คน 3 นักขี่ชาวไทย กับลุง Mike จาก Alaska, ลุง Pete จาก Boston และลุง Martin จาก Toronto




 

Hans กำลังอธิบายว่าจะให้ทำอะไรกับการฝึกซ้อมครั้งนี้



 

เป็นการฝึกซ้อมแบบพื้นฐานทั่วไปครับ อย่างการฝึกทรงตัวช้า ๆ บนรถ, สลาลม, เข้าโค้งแคบ, ขี่เป็นรูปเลขแปด แล้วก็ทำความคุ้นเคยกับระบบเบรคของรถ สำหรับคนที่คุ้นเคยกับรถรุ่นที่เช่าแล้ว อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินมาฝึก แต่สำหรับผมแล้ว ได้มาลองขี่ก่อนออกทริปจริง 1 วัน ทำให้มีความมั่นใจขึ้นเยอะครับ ยิ่งช่วงบ่ายหลังจากฝึกเรียบร้อยแล้ว Hans จะพาขี่ไปเมืองข้าง ๆ ทริปสั้น ๆประมาณ 100 กิโล ทำให้ได้เรียนรู้ และสร้างความคุ้นเคยกับรถมากยิ่งขึ้นครับ



 

ขี่จากโรงแรมมาที่นี่ เลขไมล์เพิ่งขึ้นไปแค่ 8 กิโล รถตัวเองมีแต่รถมือสอง มาได้ขี่รถใหม่แกะกล่องก็ตอนเช่าเขาขี่เนี่ยแหละ



  ฝึกกันจนเริ่มคุ้นเคยกับรถ แต่เบรกหลังเจ้า MS มันห่วยดีจริง ๆ ขนาดกระทืบซะมิดยังไม่ค่อยจะอยู่เลย



 

เสร็จสิ้นการฝึกซ้อม พี่เปรียวชูสองนิ้ว บอกว่า เด็ก ๆ ไม่เห็นมีเนินให้จั๊มป์เลย



 

ช่วงบ่าย เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยกับรถ วิ่งออกมาเมืองข้าง ๆ Dorfen




 

ไกด์ทัวร์ของเราบอกว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชาวนาท้องถิ่น เป็นวันที่หนาวที่สุด เพื่อที่จะเริ่มต้นฤดูร้อน ไม่รู้ว่ายังไม่ชินอากาศหรือว่ายังไง แต่หนาวจริง ๆ ครับ ขนาดใส่ถุงมือเต็มแถมเปิด Heater ขี่ ก็ยังสั่น เลยซัดไอติมแก้หนาวดีกว่า...



 

ขี่กลับเข้าเมือง Erding วันนี้อากาศขมุกขมัวตลอดทั้งวัน ทดลองถ่ายรูประหว่างขี่โดยใส่ถุงมือเต็มนิ้ว ไม่ไหวครับ หาปุ่มกดไม่เจอ



 

เลยถ่ายแบบโย้ไปโย้มา พอวันถัดไปเลยเปลี่ยนมาเป็นถุงมือตัดนิ้วแบบปกติ ทนเอา อยากได้รูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเยอะ ๆ ก็ต้องยอมหนาว



 

และสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในการขี่รถในยุโรปอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเติมน้ำมันด้วยตัวเอง



 

ง่าย ๆ ครับ แค่อย่าเอา Diesel ใส่เข้าไปเป็นพอ อย่างอื่นยังพอรับได้



 

ให้เลือกเอา Benzin หรือ Super เท่านั้น ราคาน้ำมันในเยอรมันจะแพงกว่าในออสเตรียอยู่หน่อยครับ ช่วงที่ไปลิตรละ 1.60 ยูโร (ประมาณลิตรละ 69 บาทเอง)



 

พี่จุ๊บบอกว่าที่นี่มันดีกว่าที่ US เพราะที่นู่น ต้องเข้าไปจ่ายตังค์ก่อน แล้วถึงจะเปิดน้ำมันให้เติม แต่ของที่นี่ เติมก่อน เสร็จแล้วเข้าไปบอกด้านในว่าใช้หัวจ่ายเบอร์อะไร แล้วค่อยจ่ายเงิน



 

แล้วก็จบทริปอุ่นเครื่องวันแรก ตอนนี้เริ่มคุ้นมือขึ้นมาบ้างแล้วครับ...



 

เป็นรถที่ขี่ดี ขี่สนุก ทั้งเจ้า Ducati และ GS แต่ไหง๋ทั้ง 3 คนบอกว่า คิดถึง HD ก็ไม่รู้ 



 

ก่อนอาหารมื้อเย็น มีการรวมกลุ่มของทั้งคณะทัวร์อีกครั้ง เพื่อแนะนำตัวและทำความรู้จักเส้นทางกันเบื้องต้นครับ ไกด์ทัวร์ หมายเลข 2 Mr. Marko เป็นชาวเยอรมัน ส่วน Mr. Hans เป็นชาว Austria ระหว่างการเดินทางจะมีการเหน็บแนมกันเล็กน้อยตลอดระหว่างเพื่อนบ้าน 2 ประเทศนี้ อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมทริปในครั้งนี้คือ 65 ปีครับ แต่ส่วนใหญ่จะขึ้น 70 กันเรียบร้อยแล้ว

 

 

ลุง Arno ชาวเยอรมัน อายุ 75 ปี ที่กำลังยืนอยู่เป็นบุคคลที่อายุมากที่สุด แต่ยังแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่ว ปิดท้ายขบวนคอยดูคนอื่น ๆ ตลอดเส้นทาง สุดยอดครับ



 

เห็นตัวอย่างดี ๆ ของนักขี่อาวุโสอย่างงี้แล้ว ต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้ขี่รถไปได้นาน ๆ นะครับ 



 

เริ่มต้นการแนะนำเส้นทางโดย Marko



 

เส้นทางวาดแบบคร่าว ๆ ด้วยมือ แสดงให้เห็นการเดินทางเป็น Loop ต่าง ๆ ทัวร์ ของ Edelweiss เขาเปิดให้ผู้ร่วมทัวร์ทุกคนเป็นอิสระครับ สามารถเลือกได้ว่าวันนี้จะขี่กับกลุ่มใหญ่ หรือว่าจะแยกไปขี่กลุ่มย่อย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องขี่กลุ่มย่อยอย่างน้อย 2 คน เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุ จะได้มีอีกคนโทรศัพท์ติดต่อมายังไกด์ทัวร์ที่ขับรถ Service เพื่อไปช่วยเหลือได้

 

 

เดี๋ยววันพรุ่งนี้จะเริ่มต้นเดินทางจาก Erding ไปยังทะเลสาบ Chiemsee ที่มีปราสาทของ King Ludwig ที่ 2 ตั้งอยู่ แล้วค่อยวิ่งเข้าเมือง Salzburg ใน Austria ครับ



 

มื้อเย็นของวันนี้... เนื้อหมูสามชั้น ทอดซะหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมมันต้ม อาหารทางนี้เขาออกเค็มครับ ขนาดผมชอบเค็ม กินแล้วยังกลัวว่าความดันจะพุ่ง เพราะมันเค็มกว่ามาตรฐานบ้านเรา แต่ก็ฟาดไม่เหลือ เพราะมันอร่อยครับ



 

ปิดท้ายด้วยไอติม Raspberry ออกรสเปรี้ยวจี๊ด ทำไมรถชาติมันสุดโต่งอย่างนี้หว่า... แต่สุดท้ายก็หมด



 

หลังจากกินมื้อค่ำเรียบร้อย ก็ลงไปเช็คสภาพรถกันอีกรอบหนึ่ง พี่จุ๊บลงไปเห็นรถตัดหญ้าคันนี้ สงสัยจะเปลี่ยนใจจาก GS ซะแล้ว



 

อากาศมันหนาวดีจริง ๆ ได้นั่งผิงไฟหน้าเตา เพิ่งเคยได้ทำก็ทริปนี้แหละครับ ปกติถ้าเข้าไปอยู่ในเมืองจะเจอแต่ Heater น้ำร้อน



แล้วก็จบวันที่สองของการเดินทาง...
 

 

Share   Like 3
Comments  
Posted by TORTANG
Date: 2011.09.27
Posted by hiway
Date: 2011.09.26