|
ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องผิดที่จะหลงรัก Steve McQueen ใช่ครับ เขามีรสนิยมดีเรื่องรถ เสื้อผ้า ผู้หญิง เขาเติบโตขึ้นมาจากพื้นเพที่ไม่ค่อยจะดีนัก จนได้มาเป็นหนึ่งในดาราใหญ่แห่งยุค แล้วก็ใช่ครับ เขาเคยแข่งมอเตอร์ไซค์ ทำผลงานได้อย่างงดงาม เคยเป็นตัวแทนสหรัฐฯ ลงแข่งในรายการ International Six Days Trial สุดโหดที่จัดในเยอรมนีตะวันออกเมื่อปี 1964 ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขาทำได้โดยปราศจากแรงสนับสนุนจากกองทัพผู้ดูแล ทีมประชาสัมพันธ์ ช่างซ่อม โปรดิวเซอร์ ทั้งหมดนี้ทำให้ MCQueen เหมือนกับตัวละครในหนังเรื่องหนึ่งที่เขาเล่นอย่างที่สุด แฟนๆ มองว่าเขาเป็นเเหมือนเหล้ารสขมที่ยิ่งแก่ ยิ่งดีกรีแรง แต่สิ่งที่อาจทำให้แม้แต่แฟนพันธ์แท้ยังประหลาดใจก็คือ ส่วนผสมสำคัญในค็อกเทล McQueen ที่มีชื่อว่า Bud Ekins |
|
|
|
|
|
Bud Ekins ผู้ยิ่งใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วคนนี้แหละคือ Steve McQueen ตัวจริง เป็นตำนานหลังฉากและเป็นอเมริกันฮีโร่ที่มนุษย์เดินดินกินกาแฟสมัยใหม่อย่างเราโหยหา Ekins เกิดในเดือนพฤษภาคม ปี 1930 หลัง Steve McQueen สองเดือน และเสียชีวิต 27 ปีหลัง McQueen โดย Ekins ยังคงอาศัยอยู่ในแถบ North Hollywood ตอนที่เขาให้สัมภาษณ์ครี้งนี้ (ครั้งสุดท้ายในชีวิต)
ผมเคาะเท้าไปเรื่อยขณะนั่งรอ Bud ที่จะมาสายนิดหน่อย อาจเป็นเพราะดับเบิลแฟรปปุชิโนที่ผมเพิ่งซดไป แต่จริงๆ ผมรู้ดีว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นที่จะได้เจอกับ Bud ตัวจริงเสียงจริงต่างหาก
เพื่อนของ Bud มาถึงก่อน เลยเปิดห้องให้ผมเข้าไปสำรวจ ฝาผนังเต็มไปด้วยโปสเตอร์บ่งบอกถึงอาชีพแข่งมอเตอร์ไซค์ออฟโรด นอกจากนี้ยังมีรูปของ Bud ในหมวกเปิดหน้าชูถ้วยรางวัลใบใหญ่กับรูปผลงานเด่นในกีฬามอเตอร์สปอร์ตอีกหลายใบ มีโต๊ะพูลเขรอะไปด้วยขี้บุหรี่ คอกเด็กเล่น โต๊ะทำงานมีกระดาษกองท่วม และโทรศัพท์พ่วงเครื่องตอบรับอัตโนมัติ ส่วนห้องข้างๆ มีมอเตอร์ไซค์คลาสสิคโบราณทั้งของ Harley-Davidson และ Matchless บางคันเป็นของ Bud เอง บางคันอยู่ระหว่างซ่อมแซม
|
|
|
|
|
|
รถกระบะ Ford รุ่นใหม่สีขาววิ่งเข้ามาจอดในสนาม ชายแก่ย่างเท้าลงมาจากที่นั่งคนขับ มือตกกระข้างหนึ่งจับไม้เท้าแน่น Bud Ekins เดินโขยกเขยกเข้ามาในบ้าน ร่างชะลูดของเขาวัดความสูงได้หกฟุตครึ่ง ในสมัยหนุ่มๆ หุ่นเขาเหมือนกับช่างตัดไม้ รูปร่างกำยำ อันเป็นผลมาจากพันธุกรรมส่วนหนึ่งและขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่สากไปลากมาอีกส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันแขนยาวๆ ของเขาผอมเหลือแต่กระดูก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผมคงไม่อธิบายรูปลักษณ์ของเขาว่าผอมบาง แต่การใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันทำให้ร่างกายเขาเสื่อมสภาพไปมาก แม้จะถือไม้เท้าอยู่ก็ยืนไม่ได้นานโดยที่ไม่ปวดเอว เขากระย่องกระแย่งไปที่เก้าอี้ประจำแล้วทรุดตัวลงนั่ง เมื่อวางมือข้างหนึ่งทับอีกข้างที่จับไม้เท้าอยู่ รอยสักสีน้ำเงินจางๆ จึงปรากฏให้เห็นบนผิวสีน้ำตาลเหี่ยวย่น เขาเหลือบเห็นสีหน้าตกใจของผม
"ผมได้มาตอนอายุ 13 หรือ 14" Bud บอก
"รอยสักเหมือนส่วนหนึ่งของการโตเป็นผู้ใหญ่ ใครๆ ก็ต้องมีรอยสัก ผมสักด้วยเหตุผลเดียวกับที่คนอื่นเริ่มสูบบุหรี่นั่นแหละ" Bud เป็นสิงห์อมควันมานานแล้ว "ยังไงเราก็ต้องตายด้วยอะไรสักอย่างอยู่แล้ว" เขาว่า
เราเริ่มคุยกัน และ Bud ดึงดูดความสนใจของเราทุกคนในห้องไว้ได้หมด เขาเป็นคนถ่อมตัว แต่เป็นนักเล่าเรื่องโดยธรรมชาติ เรื่องราวเหลือเชื่อมากมายหลั่งไหลออกมา ทุกอย่างเกิดขึ้นกับเขาและรอบๆ ตัวเขาเพราะเขาเป็นอย่างที่เป็น เขาไม่ได้ป้วนเปี้ยนอยู่กับเเหล่าดารา แต่ดารามาห้อมล้มเขาเอง
รายชื่อลูกค้าของเขาน่าตกใจมากครับ ถ้ามีดาราคนไหนอยากได้มอเตอร์ไซค์สวยๆ (Triumph เป็นที่นิยมมาก) ก็มาหาได้ที่ร้านของ Bud เขาเป็นคนสอน Warren Beatty ให้ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นด้วย บางครั้งบางคราวก้จะมีคนดังเข้ามาทำงานในร้าน Bud ไม่ขาดสาย "ผมไม่เคยเห็น Evel Knievel ขี่ผาดโผนหรอก แต่หมอนั่นเคยทำงานกับผม" Bud ยังจำได้ดี |
|
|
|
|
|
"Steve McQueen เป็นสิงห์นักบิดอีกคนที่รู้จักกับ Bud จนทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน Steve มักจะขลุกอยู่ในบริษัทดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ Triumph ที่ Bud เป็นเจ้าของอยู่" |
|
|
|
|
|
"เขาถังแตก ผมเลยให้ทำงานเปลี่ยนยาง เขาอีโก้แรงตั้งแต่สมัยนั้น ก่อนจะดังเสียอีก ขับผาดโผนได้ทุกอย่าง ทั้ง Norton, Triumph ผ่านมือมาหมดแล้ว ที่ทำกับ Harley ผมว่างี่เง่าเกินไป แต่ Harley ก็จ่ายเงินจ้างเขานะ"
Steve McQueen เป็นสิงห์นักบิดอีกคนที่รู้จักกับ Bud จนทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน Steve มักจะขลุกอยู่ในบริษัทดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ Triumph หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกที่ Bud เป็นเจ้าของอยู่ บางครั้ง McQueen ก็จะอยู่หลังร้านฝึกปะยางสำหรับการแข่งระยะไกล |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Ekins ได้รับเชิญไปยุโรปเป็นเพื่อน McQueen ระหว่างการถ่ายทำเรื่อง The Great Escape โดยทั้งคู่ทำงานร่วมกันในการกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งน่าจะเป็นฉากสตันท์ที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล แต่คนที่ตัดผมย้อมสีให้เหมือน McQueen และคนที่ขี่ Triumph เหินฟ้าในคราวนั้นคือ Bud เอง
หนึ่งปีให้หลัง ทั้งคู่กลับไปยุโรปเพื่อเข้าแข่งขันในรายการ International Six Days Trial ในเยอรมนีตะวันออก ก่อนเริ่มแข่ง ทีมจากอเมริกาแวะไปอังกฤษเพื่อซื้อ Triumph TR6SC เตรียมสภาพและหาซื้ออุปกรณ์รวมถึงแจ็คเก็ต Barbour ทำในอังกฤษด้วย ทั้งคู่พักในลอนดอนและผ่อนคลายเตรียมรับมือกับการแข่งอันหฤโหด |
|