« เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 07:22:22 AM »
ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple lonely
จากเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่นคิดค้นเครื่อง computer ส่วนบุคคลในโรงรถ จนกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่ผลิต
Computer และ mobile phone ในชื่อ Apple
http://edition.cnn.com/2011/10/05/us/obit-steve-jobs/index.html?iref=BN1

ช่วงแรกของชีวิต
สตีฟ จอบส์ เกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย[1] มีชื่อจริงว่า สตีเวน พอล จอบส์ เป็นบุตรบุญธรรมของนายพอล และนางคลารา จอบส์ (สกุลเดิม ฮาโกเพียน[15]) ต่อมาพ่อแม่บุญธรรมก็รับผู้หญิงมาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคน ชื่อ แพตตี้ ส่วนบิดามารดาที่แท้จริงของจอบส์ เขามีบิดาชื่อ นายอับดุลฟัตตะห์ จันดาลี ชาวซีเรียมุสลิม[16] นักศึกษา (ในขณะนั้น) แต่ต่อมาได้ทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสาขารัฐศาสตร์[17] กับนางโจแอน ซิมป์สัน นักศึกษาชาวอเมริกัน[16] ต่อมาได้ทำงานเป็นวิทยากรในการบำบัด[18] ต่อมาภายหลังบิดามารดาได้สมรสกันและให้กำเนิดน้องสาวร่วมสายเลือดของจอบส์ คือ โมนา ซิมป์สัน นักแต่งนวนิยาย[19][20][21][22][23]
ในปีค.ศ. 1972 จอบส์จบการศึกษาจากโฮมสตีดไฮสคูล ในเมืองคิวเปอร์ทีโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้สมัครเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยรีด (Reed College) ในเมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน แต่ก็ต้องลาพักการเรียนหลังจากเข้าเรียนได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา หลายปีต่อมา ในปาฐกถาครั้งหนึ่งในพิธีสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปีค.ศ. 2005 จอบส์ได้กล่าวว่าเพราะเขาลาพักเรียนไป จึงมีเวลาเข้าชั้นเรียนคัดตัวหนังสือ "ถ้าผมไม่ได้เรียนวิชานั้นที่วิทยาลัยรีด เครื่องแมคอินทอชคงจะไม่มีรูปแบบอักษรหลากหลาย และปราศจากฟอนต์ที่มีการแบ่งระยะห่างอย่างถูกสัดส่วนเช่นนี้" จอบส์กล่าว
ก่อตั้งแอปเปิล

ภาพที่สตีฟ จอบส์ใช้ในการประชาสัมพันธ์แอปเปิล คอมพิวเตอร์
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ. 1974 จอบส์ได้กลับมายังมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้เริ่มเข้าประชุมชมรม"เครื่องคอมพิวเตอร์ทำเองที่บ้าน" กับ สตีฟ วอซเนียก จากนั้นก็สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งช่างเทคนิคที่ อาตาริ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และวิดิโอเกมส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ตลอดช่วงเวลานี้ มีการค้นพบว่านกหวีดของเล่นที่แถมมาในกล่องอาหารเช้าทำจากธัญพืชยี่ห้อแคปแอนด์ครันช์ ทุกกล่อง เมื่อนำมาดัดแปลงเล็กน้อยแล้วจะสามารถทำเกิดเสียงความถี่ 2,600เฮิร์ทซ์ ที่ใช้ในระบบโทรศัพท์ทางไกลของเอทีแอนด์ทีได้ โดยไม่รอช้า ในปีค.ศ. 1974จอบส์กับวอซเนียกได้เริ่มธุรกิจผลิตกล่อง"บลูบ็อกซ์" จากแนวความคิดดังกล่าวอันทำเราสามารถโทรศัพท์ทางไกลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ในปีค.ศ. 1976 สตีฟ จอบส์ในวัย 21 ปี กับสตีฟ วอซเนียก วัย 26 ปี ได้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ขึ้น ในโรงรถที่บ้านของครอบครัวจอบส์ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่จอบส์กับวอซเนียกได้นำเสนอออกสู่สายตาได้แก่เครื่องApple I มันถูกตั้งราคาไว้ที่ 666.66 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนำตัวเลขมาจากหมายเลขโทรศัพท์ของเครื่องตอบโทรศัพท์เล่าเรื่องตลกขบขันของวอซเนียก ที่มีเบอร์โทรลงท้ายด้วย -6666
ในปีค.ศ. 1977 จอบส์กับวอซเนียก ได้นำเครื่องApple IIออกสู่ตลาด และประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดคอมพิวเตอร์ใช้งานในบ้าน และทำให้แอปเปิลกลายเป็นผู้ผลิตรายสำคัญในวงการอุตสาหกรรมเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในเดือนธันวาคม ปีค.ศ. 1980 แอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้กลายมาเป็นบริษัทมหาชน และการเปิดขายหุ้นให้แก่สาธารณชนผู้สนใจร่วมลงทุน ทำให้สถานภาพส่วนตัวของจอบส์สูงส่งขึ้นเป็นอันมาก ในปีเดียวกันนี้เอง แอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้นำเครื่องApple IIIออกวางตลาด แต่กลับประสบความสำเร็จน้อยกว่าเดิม
ในขณะที่ธุรกิจของแอปเปิลกำลังเติบโตต่อไป บริษัทได้เริ่มมองหาผู้มีความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจเพื่อมาช่วยในการขยายกิจการ ในปีค.ศ. 1983 จอบส์ได้ว่าจ้าง จอห์น สกัลลีย์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเป็บซี่-โคล่า ให้มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิล โดยที่จอบส์ได้กล่าวท้าทายเขาว่า "คุณต้องการจะใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการขายน้ำหวาน หรือว่าต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้กันแน่?" ในปีเดียวกัน แอปเปิลยังได้เปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ลิซา ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จทางการตลาดแต่อย่างใด
ในปีค.ศ. 1984 เราได้เห็นการเปิดตัวเครื่องแมคอินทอช เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิกส์ที่ประสบความสำเร็จทางการค้า การพัฒนาเครื่องแมคริเริ่มขึ้นโดย เจฟ ราสคินและทีมงานที่ได้แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยซีรอกซ์พาร์ก แต่ยังไม่มีการนำมาพัฒนาเพื่อการค้า ความสำเร็จของเครื่องแมคอินทอช ทำให้แอปเปิลเลิกพัฒนาเครื่องApple II เพื่อส่งเสริมสายการผลิตเครื่องรุ่นแมค ซึ่งยังคงยืนหยัดมากระทั่งทุกวันนี้
การเสียชีวิต
ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011 หลังจากที่แอปเปิลคอมพิวเตอร์ ประกาศเปิดตัว ไอโฟน 4เอส ได้เพียงแค่วันเดียว แอปเปิลคอมพิวเตอร์ประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตอย่างสงบแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อนรุ่มเร้ามาตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2004 ด้วยวัยเพียง 56 ปี
พวกเรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตแล้วในวันนี้ ความหลักแหลม กระตือรือร้น และพลังงานของสตีฟ เป็นที่มาของนวัตกรรมนับไม่ถ้วน ซึ่งเพิ่มคุณค่า และพัฒนาชีวิตของพวกเราให้ดีขึ้น โลกดีขึ้นอย่างสุดประมาณเพราะสตีฟ
Steve's brilliance, passion and energy were the source of countless innovations that enrich and improve all of our lives. The world is immeasurably better because of Steve
ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/สตีฟ_จอบส์#.E0.B8.8A.E0.B9.88.E0.B8.A7.E0.B8.87.E0.B9.81.E0.B8.A3.E0.B8.81.E0.B8.82.E0.B8.AD.E0.B8.87.E0.B8.8A.E0.B8.B5.E0.B8.A7.E0.B8.B4.E0.B8.95
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2011, 10:51:59 AM โดย Jesse Ou »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 08:23:56 AM »
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 08:28:27 AM »
ขอร่วมไว้อาลัยกับ Steve Jobs ด้วยครับพี่อู๋..เมื่อเช้าดูข่าวตกใจเลยเพิ่งได้รู้ข่าวอาการป่วยไม่นานมีข่าวอีกทีเสียแล้ว..  pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 08:49:23 AM »
สัจธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา... ขอร่วมไว้อาลัยแด่ สตีฟ จ๊อบส์ worship worship worship
|
บันทึกการเข้า
💀💪💪💀
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 10:38:09 AM »
sadangelขอร่วมอาลัยและเสียใจ Steve Jobs ด้วยครับ ผมก็อีกหนึ่งคนที่ใช้ Apple sadangel
|
บันทึกการเข้า
....." MC' THAILAND ".....
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2011, 11:41:47 AM โดย Jesse Ou »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 11:33:10 AM »
RIP.อ่านประวัติแล้วคนเก่งๆระดับโลกนี่ก็พยายามไม่ใช่เล่นเหมือนกันกว่าจะประสบความสำเร็จ....สุดยอด thumbsup
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 11:37:42 AM »
ระดับนี้ยังไม่เหลือ ส่วนเราไม่ต้องพูดถึง surrender ขอร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียบุคคลสำคัญด้วยคับ worship
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 11:58:26 AM »
ขอขอบคุณมันสมองของท่าน..สิ่งที่ท่านทำมาแล้ว..มันจะจารึกเป็นประวัติศาสตร์ให้กับเชาวยน คนรุ่นหลังต่อไป..ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียบุคคลากรดีๆระดับโลก อีกท่านหนึ่งครับ.. worship
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 03:23:59 PM »
เขาเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ผมนับถือมากๆๆ ในด้านความคิดและเทคโนโลยี ทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆ จาก เครื่อง Mac และ ไอโฟน ของผม ขอแสดงความเสียใจด้วยคับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 03:00:21 AM »
ระดับนี้ยังไม่เหลือ ส่วนเราไม่ต้องพูดถึง surrender ขอร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียบุคคลสำคัญด้วยคับ worship
พี่ฉ่อง นิ...ฮ่าๆ 
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 11:19:26 AM »
ร่วมไว้อาลัยด้วยครับ น้องชายผมก็เป็นสาวกและก็ทำงานอยู่กับแอปเปิ้ลด้วยครับ worship
|
บันทึกการเข้า
Born to be or Try to be?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 12:12:39 PM »
Three apples change the world - แอปเปิ้ล 3 ลูก ที่เปลี่ยนโลก
ลูกแรก คือ แอปเปิ้ลที่อดัมกับอีฟแอบกินเข้าไปทำให้เกิดมนุษย์โลก
ลูกที่สอง คือ แอปเปิ้ลที่หล่นใส่ นิวตัน ทำให้ ไอแซค นิวตั้นค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงของโลก
ลูกที่สาม คือ แอปเปิ้ลที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดย สตีฟ จอบส์ แห่ง Apple
thumbsup thumbsup thumbsup
|
บันทึกการเข้า
Super PAT ชัยภูมิสวัสดีครับ ผมโอ้ทครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 01:47:47 PM »
ขอขอบคุณ Steve Jobs ที่ได้มอบข้อคิดดีๆหลายๆอย่างให้ และสิ่งที่ขอเก็บไว้ก็คือ ... "แต่ว่า ไม่มีใครที่ไม่ต้องตาย ทุกคนจะต้องตาย ขอโทษที่เล่าเหมือนเป็นละคร แต่นี่มันคือเรื่องจริงที่ต้องรับให้ได้ ดังนั้นช่วงชีวิตที่คุณมีอยู่ ไม่ควรไปเสียเวลาเติมเต็มให้กับผู้อื่นมากนัก อย่าไปติดกับกฎเกณฑ์ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ อย่าไปขึ้นกับผลความคิดของผู้อื่น อย่าให้ความคิดเหล่านั้นมากลบเสียงของคุณเอง ที่สำคัญที่สุด จงกล้าที่จะทำตามหัวใจและสัญชาติญาณของคุณ ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม เพราะมันรู้ถึงสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง เรื่องอื่นๆถือว่าเป็นเหตุผลที่รองลงมา"
และขอขอบคุณคุณ Jesse Ou ด้วยนะครับ ที่ได้นำข้อคิดดีๆเหล่านี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน ...
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2011, 01:35:41 AM »
สุดยอดบุคคลแห่งยุคที่น่ายกย่องและจดจำ...Steve Jobs.. worship worship worship
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2011, 01:41:50 AM โดย Bung Ron »
บันทึกการเข้า
|