ภาค 1
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมมาเขียนเรื่องสมองกลของรถที่เราๆท่านๆ ใช้กันอยู่ ว่ามันคืออะไร ทำงานแบบไหน แล้วก็ดียังไง มีข้อเสียอะไรบ้าง
หลังจากที่มีการปฎิวัติทางด้านแมคคานิค เป็น กึงไฟฟ้ากึงแมคคานิคที่ให้ความแม่นยำในการจ่ายเชื้อเพลิงให้แก่ยานพาหนะทั่วไป เป็นที่นิยมชมชอบของคนทั่วไป โดยมาแทนที่ คาร์บูเรเตอร์อย่างสมบูรณ์ในตอนปลายของยุค 1980
ประวัติของการจ่ายน้ำมันแบบฉีดด้วยกระแสไฟฟ้าในยุคแรกๆ หัวฉีดได้ใช่ในวงแค่ การใช้น้ำมันดีเซล โดยการอัดแรงให้ฉีดเป้นฝอยออกมาเพื่อให้ระเบิดได้ง่ายขึ้น เพราะ เชื้อเพลิงแตกต่างจาก เบนซินเป็นอย่างมาก เพระใช้การอัดระเบิด ไม่ใช่ การจุดระเบิด
เครื่องหัวฉีดหัวแรก ได้ถูกบันทึกว่า นายช่าง Jonas Hesselman ได้นำระบบหัวฉีดสำหรับเบนซินมาใช้เป็นครั้งแรก ในปี 1925 โดยนำมาใช้ในเครื่องที่เค้าพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งการพัฒนาครั้งนั้น มีคอนเซปนำมาใช้กับเครื่องบินในการต่อสู้ทางอากาศเท่านั้น
Junkers Jumo 210
Daimler-Benz DB 601
BMW 801
ต่อมาให้ปี 1940 อัลฟ่า โรมีโอ ได้นำเอาระบบหัวฉีดไปใช้กับรถยนต์เป้นครั้งแรก มีชื่อว่า Caproni-Fuscaldo Alfa Romeo 6C2500 โดยนำมาใส่ในรถบอดี้ Ala spessa
เครดิต
http://en.wikipedia.org/wiki/Fuel_injection ในปี 1980 มอเตอร์ไซค์คันแรกที่ใช้ระบบ EFI คือ Kawasaki KZ1000G ในปี 1995 Harley ได้เสนอระบบหัวฉีดออกมาเป้นครั้งแรก ในการฉลองครบรอบ 30ปี Electra Glide ตั้งแต่ ปี 2007 Harley ได้นำเอาระบบหัวฉีดไฟฟ้าเข้าสู่ระบบการผลิตทั้งหมด ณ วันนี้ นี่เองที่เราๆท่านๆ ต้องมาดูกันว่า ไอ้เจ้าส่วนที่เข้ามาเสริม ในเรื่องของหัวฉีด นั้นคือ Super tuner มันคืออะไร
ระบบน้ำมัน
แผนผังระบบ
เครดิต
http://www.nightrider.comยังไม่ต้องไปเข้าใจในเรื่องภาษาปะกิตนะครับ ดูรูปคร่าวๆ ไปก่อน แค่ว่า ระบบมันค่อนข้างละเอียดอ่อน และยุ่งยากพอสมควร
ทีนี้การปรับจูน ต้องใช้เครื่องที่ทำมาเป้นพิเศษ เพื่อให้ สื่อสารกับเครื่องรถได้ ทาง Harley ได้ออกเครื่องที่ว่ามาขายให้กับเราๆท่านๆ ในชื่อว่า Supertuner
EFI- Electric Fuel Injection ทำงานอย่างไร1. สมองกลวัดรอบ RPM จากเครื่องบอกตำแหน่งที่เพลาข้อเหวี่ยงของลูกสูบ
2. คำนวนการทำงานของเครื่อง จากตำแหน่ง ปีกผีเสื้อ และ ตัววัด MAP
3. สมองกล เอา รอบที่ได้ กับ การทำงานของเครื่อง มาเช๊คกับตาราง Fuel map( ค่าการใช้น้ำมัน รอบ/ตำแหน่งเปิดอากาศ) ที่บันทึกในกล่อง
4. ทำการปรับค่าหัวฉีดให้ตรงกับที่ บันทึกไว้
5. คำนวนในเรื่องต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ถ้าเครื่องเย็นไป ให้เพิ่มรอบ+น้ำมัน ระยะหนึ่งในการอุ่นเครื่อง
6. คำนวนเรื่อง อุณหภูมิของไอดี ถ้าเย็นไป อาจทำให้น้ำมันผสมมากเกินไปได้ ถ้าร้อนเกินไป ทำให้การผสมออกมาได้บางเกินไป ก็จะทำการปรับ โดยจับจากตัววัดที่ทางเข้าไอดี
7. ทำการปรับการจ่ายน้ำมันให้เท่าที่คงเดิมตลอดเวลา โดย การใช้ข้อมูลข้างต้นมาเป้นตัวกำหนด นับเป็นหน่วน เศษส่วนของวินาทีกันเลยทีเดียว
ทีนี้ ถ้าเราอยากได้เครื่องที่ เรียบไหลลื่น สมรรถนะที่ดีกว่านี้ละ เราควรทำยังไง
Upgrade >>>>> นี่คือ จุดที่ผมจะตอบให้ท่านผู้อ่านทุกคนทราบนะครับการอัพเกรด มีได้หลายแบบ 1.
Chip Upgrade ไม่ใช่ เพิ่ม 20บาทได้แล้วได้เพิ่มแบบ McDonald นะครับ คือการอัพโปรลงกล่อง จาก HD เองเลย เช่น จาก Stage 1 ไป stage2 พวก Screaming eagle ก็ อัพมาในกล่องที่ติดรถมาอยู่แล้ว โดยการบันทึก MAP ใหม่ลงไป
ข้อดี ติดตั้งง่าย แค่เสียบสายแล้ว อัพโหลด
ข้อเสีย การเซตมาจากโรงงาน อาจทำให้ค่าเพี้ยนได้ เพราะสถานการณ์ไม่ตรงกัน (แค่คนละประเทศก็เพี้ยนแล้ว)
2.
Piggy back ไม่ใช่กระเป๋าสะพายลูกนะครับ มันคือ ตัวพ่วงที่มาแปะกะกล่องเดิม เช่น Dynojet fuel pak เทือกๆนั้นละครับ
ข้อดี ทำให้ชดเชยความสามารถบางอย่างที่กล่องเดิมติดรถมาทำไม่ได้
ข้อเสีย OEM ที่มีเดิม ไม่เปลี่ยน แต่ กล่องจะส่งสัญญาณหลอก การ Set ยุ่งยาก ต้องมีความรู้ ความเข้าใจใน MAP ด้วย
3.
Pulse extender ตัวนี้จะทำให้ระยะการฉีดของหัวฉีด สามารถฉีดได้เพิ่มขึ้น ทำให้จ่ายน้ำมันได้เยอะขึ้น
ข้อดี ติดตั้งง่ายไม่ยาก ใช้แค่ไขควงปรับแต่ง ก็ใช้ได้แล้ว
ข้อเสีย ตั้งได้แค่ น้ำมันหนาอย่างเดียวนะครับ ตามกราฟเดิมของ OEM MAP
4.
EMS engine management software packages ตัวนี้จะปรับได้ทุกอย่างที่ ECU ควบคุมอยู่ เช่น Supertuner นั้นเอง
ข้อดี ปรับแต่งได้ทุกอย่าง
ข้อเสีย แพง
เครดิต
http://www.nightrider.com/biketech/motorcycle_efi_upgrades.htmเมื่อมาถึงตรงนี้ ข้ออื่นๆ ผมจะไม่พูดถึง จะเน้นไปที่ Supertuner กันเลย แต่ผมเวลาไม่พอเสียแล้วครับ ท่านผู้อ่าน ต้องไปต่อในภาค 2แล้วละครับ รับรองยาวแน่นอน
โปรดติดตาม ภาค 2 นะครับ เอา VDO ไปดูเล่นก่อน ให้ สังเกตุรอบให้ดีๆนะครับ 800 รอบ กับเสียง รถคันนี้ถูกอัพเกรดด้วย Super tuner นั้นเอง
ขอบคุณที่เข้ามาติชม ครับ
ปล. ภาค 2 ขอติดไว้นานนิดนะครับ เพราะเยอะมาก - -"
Supertuner คืออะไร? ผมมีคำตอบให้คุณครับ Part 1. (อ่าน 6660 ครั้ง)